Exclusive Interview โดย : นพ.สรรพสิทธิ์ สัมฤทธิวณิชชา กรรมการบริหาร โรงพยาบาลยันฮี เรื่อง เปิดกลยุทธ์ความสวยที่ยั่งยืนจาก “ยันฮี”

“หัวใจของความสำเร็จ คือ การรับฟังเสียงของผู้บริโภคให้มากแล้วนำพัฒนา ต่อยอด รวมทั้งขยายผลเพื่อตอบสนองความต้องการให้ตรงจุด” นพ.สรรพสิทธิ์ สัมฤทธิวณิชชา กรรมการบริหาร โรงพยาบาลยันฮี เผยถึงแนวคิดในการบริหารธุรกิจและสร้าง โรงพยาลแห่งนี้ให้เป็น ศูนย์ศัลยกรรมที่มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญมากที่สุดในประเทศไทย ด้วยการดำเนินธุรกิจมากว่า 3 ทศวรรษ

               นพ.สรรพสิทธิ์ กล่าวว่า “เราพัฒนา โรงพยาบาลยันฮี ด้วยแนวคิด “สวยครบวงจร…สวยที่ยันฮี” เราถือเป็นศูนย์ศัลยกรรมแห่งแรกของไทย ปัจจุบันเรามีลูกค้าต่างประเทศที่เข้ามาศัลยกรรมแปลงเพศมากที่สุดในเอเชีย เรามีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ รวมทั้งเทคโนโลยีอันทันสมัยพร้อมให้บริการ ทั้งนี้นอกจากมิติของศัลยกรรมเรายังได้ขยายผลไปยังการรักษาต่างๆ เพื่อสร้างความสวยจากภายในสู่ภายนอก อาทิ ศูนย์ดีท็อกซ์ ที่พร้อมให้บริการสวนล้างลำไส้เพื่อล้างพิษออกจากร่างกาย รวมทั้งยังได้จัดตั้งศูนย์คีเลชั่นบำบัด (Chelation Therapy) หรือการล้างพิษเพื่อฟื้นฟูหลอดเลือด”

               นพ.สรรพสิทธิ์ ขยายความต่อไปว่า “เรามีแนวคิดที่จะมุ่งสร้าง “ความสวยในทุกจุดจากภายในสู่ภายนอก” นี่จึงเป็นเหตุผลหลักในการไม่ขยายสาขา แต่เลือกที่จะพัฒนาสินค้าและบริการเพื่อเติมเต็มให้กับผู้บริโภค จึงได้จัดตั้ง บริษัท ยาอินไทย จำกัด บริษัท ในเครือ รพ.ยันฮี เป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เครื่องสำอาง และยาสมุนไพรให้แก่ลูกค้า โดยปักหมุดเป้าหมายโรงพยาบาลยันฮีสู่การเป็น Online Health Hospital and Digital Marketing Product ชั้นนำของเมืองไทย”

               “สำหรับผลิตภัณฑ์ที่เราเริ่มรุกตลาดภายใต้การบริหารงานของ ยาอินไทย คือ “ยันฮี วิตามินวอเตอร์” น้ำดื่มจากแนวคิดของ ‘แพทย์’ ที่ห่วงใยและอยากให้ทุกคนมีสุขภาพที่ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องการรับประทานอาหารและเครื่องดื่มที่ต้องมีคุณค่าทางโภชนาการที่ครบถ้วนตามคำแนะนำ ซึ่งโภชนาการเหล่านั้นจะช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย โดยวันนี้ได้รับผลตอบรับที่ดี อย่างไรก็ดีนอกจากผลิตดังกล่าว เรายังขยายโอกาสด้วยการสร้างความร่วมมือกับองค์กรต่างๆ เพื่อพัฒนาสินค้าอย่างเช่นล่าสุดอย่าง “ยันฮี น้ำกัญชาผสมวิตามิน” เครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของกัญชา ตอบโจทย์กระแสการดูแลสุขภาพในยุคโควิด-19 ชูคอนเซ็ปต์น้ำดื่มอารมณ์ดีช่วยผ่อนคลาย ทั้งหมดที่กล่าวมาข้างต้น นพ.สรรพสิทธิ์ มองว่า นี่คือโอกาสที่สอดรับกับเทรนด์ในปัจจุบันและแนวโน้มการดูแลรักษาสุขภาพในหลายประเทศมีความนิยมที่สูงมากขึ้น ส่งผลให้ผู้คนในประเทศเหล่านั้นหันมาใส่ใจดูแลตัวเองมากขึ้น โดยเฉพาะในประเทศไทย ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมามีแนวโน้มการดูแลสุขภาพที่สูงขึ้น” นพ.สรรพสิทธิ์ กล่าวเสริม

               เมื่อสอบถึงประเด็นการปลดล็อกกัญชา นพ.สรรพสิทธิ์ อธิบายต่อได้อย่างน่าสนใจว่า จากที่ภาครัฐฯ ได้ประกาศปลด ล็อกให้สามารถนำส่วนของใบ กิ่ง ก้านและรากของผลิตภัณฑ์กัญชามาใช้ได้อย่างถูกต้อง ซึ่งถือว่าไทยเป็นประเทศแรกในอาเซียนที่อนุญาตให้ใช้กัญชาอย่างถูกกฎหมาย เป็นผลทำให้ตลาดนี้กว้างมากขึ้น ประกอบกับที่โรงพยาบาลยันฮีได้ส่งทีมบุคลากรไปอบรมกัญชาทางการแพทย์อย่างจริงจัง ทำให้พบว่าทั่วโลกต่างก็ให้ความสนใจ และเลือกใช้ยาและผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกัญชามาใช้ในการรักษาโรค เราจึงนำความรู้นั้นมาต่อยอด และพัฒนาเป็นแพทย์ทางเลือกเพื่อใช้ในการรักษาผู้ป่วย ผ่านศูนย์รักษาโรคด้วยกัญชาของโรงพยาบาลยันฮี

               “ก้าวเดินต่อจากนี้ ยันฮี ยังเห็นโอกาสที่หลากหลายในการสร้างความสวยและสุขภาพดีให้กับคนไทยอย่างต่อเนื่อง เช่น ในมิติของ กัญชา เราตั้งเป้าที่จะพัฒนาศูนย์รักษาโรคด้วยกัญชาแห่งนี้ให้มีการรักษาและผลิตภัณฑ์การรักษาโรคที่มีความหลากหลายขึ้น เช่น รักษาอาการที่เกิดจากผลข้างเคียงจาก Long Covid (ภาวะลองโควิด), รักษาไมเกรน, รักษาอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อที่มีผลข้างเคียงจากการทำเคมีบำบัด ตลอดจนอาการนอนไม่หลับ, เครียด, วิตกกังวล พร้อมกันนี้ยังมุ่งมั่น พัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์อาหารเสริม ยาใช้ภายนอก เช่น สเปรย์กัญชาสำหรับคลายกล้ามเนื้อ ครีมผสมกัญชา และน้ำมันกัญชา ต่อไป เพื่อตอบรับเป้าหมายที่วางไว้ คือการส่งมอบความสุข ที่ประกอบไปด้วย สุขภาพดีที่มาจากภายในสู่ภายนอก และสุขใจเมื่อมีสุขภาวะที่ดีเมื่อใช้สินค้าและบริการจากเรา” นพ.สรรพสิทธิ์ กล่าวทิ้งทาย

Comments

No comments yet. Why don’t you start the discussion?

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *