ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ผู้นำด้านดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่นในการจัดการพลังงานและระบบอัตโนมัติ เผยความสำเร็จโครงการสร้างความยั่งยืนขององค์กร “Schneider Sustainability Impact (SSI)” ในไตรมาสแรกของปี 2568 ด้วยคะแนนสูงถึง 7.95 จาก 10 พร้อมตั้งเป้าหมายคว้า 8.80 คะแนนภายในสิ้นปีนี้ ขณะที่ในเดือนมกราคมที่ผ่านมา Corporate Knights จัดอันดับให้เป็นบริษัทที่ยั่งยืนที่สุดในโลก และเพื่อย้ำคำมั่นสู่เป้าหมายด้านความยั่งยืน ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ยังคงเดินหน้าขับเคลื่อนอย่างเข้มข้นต่อเนื่อง ในขณะที่ก้าวสู่ปีสุดท้ายของโครงการ SSI
ชไนเดอร์ อิเล็คทริค สร้างความก้าวหน้าหลากหลายมิติตลอดไตรมาสแรก
- ตลอดไตรมาสแรกของปี 2568 ที่ผ่านมา ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ช่วยลูกค้าประหยัดพลังงานมากขึ้น และเลี่ยงการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ผ่านโซลูชั่นต่างๆ ได้เกือบ 700 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า พร้อมกับการเปิดตัวโครงการ Energize Power Purchase Agreement (PPA) รุ่นที่ 2 ซึ่งเป็นข้อตกลงการซื้อขายพลังงานไฟฟ้าหมุนเวียน เพื่อสนับสนุนการลดคาร์บอนสำหรับภาคเภสัชกรรมและการดูแลสุขภาพซึ่งช่วยให้บริษัทด้านการดูแลสุขภาพระดับโลก 4 แห่ง สามารถซื้อพลังงานไฟฟ้าหมุนเวียนได้ถึง 245 กิกะวัตต์ชั่วโมงต่อปี ต่อเนื่องเป็นระยะเวลา10 ปี นอกจากนี้ ยังเร่งศักยภาพในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในขั้นตอนการผลิต ทำให้สามารถลดการปล่อยคาร์บอนในกลุ่มบริษัทซัพพลายเออร์อันดับต้น 1,000 รายของบริษัทได้ถึง 42%
- แม้ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค จะสามารถบรรลุเป้าหมายล่วงหน้าได้เร็วกว่ากำหนดเกินหนึ่งปี บริษัทฯ ก็ยังคงเดินหน้าผลักดัน เพื่อแก้ปัญญาหาความขาดแคลนและสนับสนุนชุมชนเข้มแข็งอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบัน มีจำนวน 56 ล้านคน ที่สามารถเข้าถึงพลังงานสะอาดแล้ว ด้วยการพัฒนาโซลูชั่นพลังงานสะอาดเพื่อใช้ด้านต่างๆ ทั้งการศึกษา การดูแลสุขภาพ การเกษตรและในการดำเนินธุรกิจขนาดเล็กหรือวิสาหกิจชุมชน โดยล่าสุดได้ร่วมลงนามกับ Rise Ahead Pledge ซึ่งมี 25 องค์กรเข้าร่วมประกาศคำมั่นสัญญาในการจัดสรรทรัพยากรเพื่อพัฒนานวัตกรรมทางสังคมมากขึ้น ทั้งนี้ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค มุ่งมั่นที่จะขยายการเข้าถึงบริการที่จำเป็น พร้อมทั้งส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม โดยเน้นที่ปัญหาการขาดแคลนพลังงานและการลงทุน เพื่อสร้างผลกระทบเชิงบวกในตลาดที่ยังเข้าถึงบริการเหล่านี้ได้น้อย
- ประธานประจำภูมิภาคและประเทศต่างๆ ของชไนเดอร์ อิเล็คทริค ยังคงขับเคลื่อนโครงการต่างๆ ที่สร้างผลกระทบเชิงบวกในระดับท้องถิ่นอย่างต่อเนื่อง โดยสานต่อความสำเร็จกว่า 200 โครงการที่เริ่มต้นขึ้นในปี 2564 ซึ่งโครงการเหล่านี้ มีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมผลกระทบด้านความยั่งยืนในเชิงบวก ผ่านการสนับสนุน และเสริมศักยภาพให้แก่ชุมชนท้องถิ่นในหลากหลายมิติ ไม่ว่าจะเป็นการฝึกอบรมและการให้คำปรึกษา การสร้างความมั่นคงทางพลังงาน การดำเนินการด้านสิ่งแวดล้อมและอื่นๆ อีกมากมาย ตัวอย่างเช่น ชไนเดอร์ อิเล็คทริค สหราชอาณาจักร (Schneider Electric UK) และมูลนิธิทอตนัมฮอตสเปอร์ (Tottenham Hotspur Foundation) ได้เปิดตัวโครงการการศึกษาด้านสะเต็ม (STEM educational program) สำหรับนักเรียนระดับประถมศึกษาเมื่อเร็วๆ นี้ เพื่อจุดประกายแรงบันดาลใจให้กับนักเรียนในพื้นที่ ด้วยการจัดกิจกรรมเชิงปฏิบัติโต้ตอบร่วมกันที่เน้นให้ผู้เข้าร่วมได้ลงมือปฏิบัติจริง (Interactive workshops) และการเข้าถึงทรัพยากรดิจิทัลที่หลากหลาย (digital resources) ซึ่งจะเป็นการติดอาวุธด้านทักษะที่จำเป็นสำหรับอนาคตที่ยั่งยืน
“ที่ชไนเดอร์ เราเชื่อมั่นในการสร้างความร่วมมืออันแข็งแกร่งกับองค์กรธุรกิจ ภาครัฐ พันธมิตรในระดับท้องถิ่น และชุมชนต่างๆ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต เพิ่มรายได้และขยายโอกาสการเข้าถึงการศึกษา รวมถึงพลังงานสะอาดที่เชื่อถือได้ ซึ่งเรารู้สึกภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งในความมุ่งมั่นทุ่มเทของบุคลากรชไนเดอร์ อิเล็คทริค ที่ไม่เคยหยุดนิ่งในการเปลี่ยนเป้าหมายสู่การลงมือปฏิบัติจริง ตั้งแต่การพัฒนานวัตกรรมโซลูชั่น เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมไปจนถึงการตอบแทนชุมชน ด้วยความร่วมมือนี้ เรากำลังสร้างความก้าวหน้าและทำให้ความยั่งยืนเป็นจริงสำหรับทุกคน” คริส เหลียง ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายความยั่งยืน ชไนเดอร์ อิเล็คทริค กล่าว
สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้จากรายงานโครงการ Schneider Sustainability Impact ไตรมาสแรกของปี 2568 ซึ่งรวมถึงแดชบอร์ดแสดงความก้าวหน้าของโครงการ
