“ดร.ก้องศักด โชว์วิสัยทัศน์ 5 นโยบาย ขับเคลื่อนกีฬาไทยสู่ระดับโลก”


ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เป็นประธานในงานแถลงนโยบายด้านการกีฬา พร้อมโชว์วิสัยทัศน์ 5 นโยบาย ขับเคลื่อนกีฬาไทยสู่ระดับโลก โดยมี นายมีชัย อินวู๊ด รองผู้ว่าการ กกท. ฝ่ายบริหาร, นายสุรศักดิ์ เกิดจันทึก รองผู้ว่าการ กกท. ฝ่ายส่งเสริมกีฬา, นางโปรดปราน สมานมิตร รองผู้ว่าการ กกท. ฝ่ายกีฬาอาชีพและกีฬามวย, นายปรีชา ลาลุน รองผู้ว่าการ กกท. ฝ่ายกีฬาเป็นเลิศและวิทยาศาสตร์การกีฬา และคณะผู้บริหาร เจ้าหน้าที่ กกท. เข้าร่วมงานแถลงนโยบาย ณ คอนเวนชั่น ฮอลล์ พาวิลเลียน เอ โรงแรมเดอะแกรนด์โฟร์วิงส์ กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2568 ที่ผ่านมา

ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการ กกท. ได้โชว์วิสัยทัศน์ การขับเคลื่อนกีฬาไทยสู่ระดับโลก ด้วย 5 นโยบาย ประกอบด้วย 1.การสร้างโอกาสให้เยาวชนและประชาชน เข้าถึงการเล่นกีฬาอย่างเท่าเทียม (Sports For All) ภายใต้แนวคิด “กีฬาสร้างสุขภาพและสร้างความสุข” 2.ส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาทักษะที่ถูกต้องทางกีฬา โดยบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องภายใต้สังกัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา 3.ยกระดับนักกีฬาไทยด้วยการพัฒนาทักษะทั้งพื้นฐานและขั้นสูง สู่การเป็นตัวแทนทีมชาติ ภายใต้ศูนย์ฝึก NTC ที่เสริมสร้างศักยภาพทั้งร่างกายและจิตใจ เดินหน้านำวิทยาศาสตร์การกีฬามาบูรณาการอย่างครบวงจร 4.การพัฒนานักกีฬาสู่ความเป็นเลิศและกีฬาอาชีพ เพื่อร่วมแข่งขันในรายการระดับโลก และการพัฒนาส่งเสริมทุกด้านสู่ความเป็นเลิศและระดับอาชีพ และสร้างแรงบันดาลใจให้คนไทยทั้งชาติ กลายเป็นชัยชนะยิ่งใหญ่ที่เกิดจากหัวใจที่ไม่เคยยอมแพ้อย่างแท้จริง และ 5. ผลักดันประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางของรายการแข่งขันกีฬาระดับโลก และการส่งเสริมสปอร์ตทัวริซึ่ม ตลอดจนนโยบายภาครัฐในการส่งเสริมและสนับสนุนการสร้างรายการแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติ และกีฬาอาชีพในประเทศ เพื่อสร้าง Sport Eco System ที่สมบูรณ์ยั่งยืน

ดร. ก้องศักด กล่าวปิดท้ายว่า สำหรับกีฬาของไทยที่ก้าวสู่เวทีโลก ได้แก่ รายการแข่งขันมวยไทยที่มีชื่อเสียงระดับโลก อาทิ รายการ RWS (Rajadamnern World Series) รวมถึงรายการกีฬาสำคัญที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ เช่น การแข่งขันวอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์โลก 2025 และการแข่งขันจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก “โมโตจีพี” ที่มีนักแข่งไทยสร้างประวัติศาสตร์ลงสนาม ได้แก่ ก้อง–สมเกียรติ จันทรา ในรายการ “โมโตทู”, ชิพ–นครินทร์ อธิรัฐภูวภัทร์ ในรายการ “โมโตทรี” และก๊องส์–ธัชกร บัวศรี ในรุ่นเดียวกัน ขณะเดียวกันกีฬาอีสปอร์ต สิรวุฒิ รุ่งรัตน์กสิกุล นักกีฬาไทยวัย 16 ปี สามารถคว้าแชมป์โลกการแข่งขัน eFootball Championship 2025 World Finals ซึ่งความสำเร็จเหล่านี้ไม่เพียงสร้างชื่อเสียงให้แก่นักกีฬาและประเทศไทย แต่ยังสร้างมูลค่ารวมจากอุตสาหกรรมกีฬา และมีส่วนช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศได้เป็นอย่างมาก

นอกจากนี้ ภายในงาน ยังมีนิทรรศการแสดงผลงานและวิสัยทัศน์ของการกีฬาแห่งประเทศไทย ซึ่งแบ่งออกเป็น 5 โซนประกอบด้วย โซนที่ 1 : สร้างโอกาสในการเข้าถึงการเล่นกีฬาให้กับเยาวชนและประชาชน , โซนที่ 2 : พัฒนาทักษะที่ถูกต้องทางกีฬา , โซนที่ 3 : การพัฒนาทักษะทางกีฬาขั้นสูง สู่ความเป็นนักกีฬาตัวแทนประเทศ , โซนที่ 4 : การพัฒนานักกีฬาสู่ความเป็นเลิศและกีฬาอาชีพ เพื่อร่วมแข่งขันในรายการระดับโลก และโซนที่ 5 เวิลด์ สปอร์ต อีเวนต์ – สปอร์ต ทัวร์ริซึ่ม


Comments

No comments yet. Why don’t you start the discussion?

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *