นายวิทัย รัตนากร ผู้ว่าการแบงก์ชาติคนใหม่ เปิดเวทีพบปะพูดคุยกับสื่อมวลชนเป็นครั้งแรกผ่านรายการ GovernorConnect บอกเล่าแนวทางการทำงานของ ธปท. และทิศทางนโยบายสำคัญในระยะต่อไป

“ผู้ว่าการวิทัย” กล่าวว่า นโยบายของ ธปท. ยังคงยึดภารกิจหลัก เพื่อรักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจมหภาค 3 เรื่อง ได้แก่
1.เสถียรภาพทางการเงิน โดยเฉพาะดูแลให้เงินเฟ้อระยะปานกลางอยู่ในระดับต่ำและไม่ผันผวน (Low and Stable) รวมถึงไม่ให้เกิดภาวะเงินฝืด และให้เงินเฟ้อกลับเข้าสู่กรอบเป้าหมายในระยะปานกลาง
2.เสถียรภาพระบบสถาบันการเงิน โดยสถาบันการเงินเข้มแข็ง มีความมั่นคง สามารถให้บริการลูกหนี้ ประชาชน และธุรกิจได้ต่อเนื่อง และดูแลไม่ให้เกิดจุดเปราะบางในระบบการเงินที่อาจลุกลามกลายเป็นวิกฤตในอนาคต
3.เสถียรภาพระบบการชำระเงิน ดูแลให้ระบบมีประสิทธิภาพ ตอบสนองความต้องการของประชาชน ธุรกิจ และภาครัฐ ทั้งด้านความสะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย และด้วยราคาที่สมเหตุสมผล
“เรายืนยันในภารกิจหลัก คือ รักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจมหภาค และมีความอิสระจากการกดดันทางการเมือง แต่คำว่าอิสระนั้น ไม่ได้แปลว่า ทำงานร่วมกับคนอื่นไม่ได้ แต่จะเน้นประสานนโยบายการเงินและนโยบายการคลัง โดยยึด 3 เรื่องหลัก คือ ดูแลเงินเฟ้อให้อยู่ระดับต่ำอย่างมีเสถียรภาพ ดูแลระบบการเงิน สถาบันการเงินให้เข้มแข็ง ไม่ให้เกิดวิกฤตเหมือนอดีต ดูแลระบบชำระเงินให้มีเสถียรภาพ”
“ผู้ว่าการวิทัย” กล่าวย้ำว่า “สุดท้าย แบงก์ชาติต้องใกล้ชิดปัญหา ใกล้ชิดประชาชน และพร้อมผ่อนคลายนโยบายการเงินต่อไปให้อยู่ระดับผ่อนคลายต่อไป เพื่อประคองเศรษฐกิจ”
-มาตรการเฉพาะจุด
ขณะเดียวกันในยุคปัจจุบันการออกมาตรการของ ธปท. จะต้องตอบได้ว่า ประชาชน สังคม และประเทศ ได้ประโยชน์อะไร
“มาตรการที่จะออก จะเป็นมาตรการเฉพาะจุด เช่น คุณสู้ เราช่วย ที่สามารถช่วยเหลือลูกหนี้ได้ และเป็นมาตรการออกมาเสริมนโยบายการเงินที่เป็นการใช้เครื่องมือ ‘ดอกเบี้ย’ ที่มีผลในวงกว้าง มาตรการเฉพาะจุดที่ออกมา จะออกมาช่วยแก้เฉพาะจุด และมี Impact มากขึ้น”
สิ่งที่ทำมาแล้วและอยู่ระหว่างผลักดันเพื่อดำเนินการต่อไป เช่น ธนาคารพาณิชย์ไร้สาขา (Virtual Bank) ที่จะเข้ามาช่วยให้คนเข้าถึงบริการทางการเงิน หรือโครงการที่อยู่ระหว่างการตกผลึกที่จะต้องดำเนินการให้เกิดขึ้นจริง เช่น สถาบันค้ำประกันเครดิตแห่งชาติ (NaCGA) เพื่อเพิ่มโอกาสให้ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) เข้าถึงสินเชื่อ หรือการกำหนดอัตราดอกเบี้ยตามความเสี่ยงผู้กู้ (Risk Based Pricing) และโครงการ Your Data การพัฒนาระบบ Digital Payment เป็นต้น
นอกจากมาตรการเฉพาะจุด ในเรื่องของการให้ความรู้ทางการเงินต้องทำ เช่น ของมันต้องมี โดยเฉพาะเรื่องของ ซื้อก่อนผ่อนทีหลัง Buy Now Pay Later หากมีความจำเป็นต้องดูแล เราก็ไม่ปฏิเสธที่จะเข้าไปดูแล
“มาตรการเฉพาะจุดจะออกมาช่วยลูกหนี้เป็นจุด ๆ เพื่อให้ลูกหนี้สามารถเข้าถึงสินเชื่อ สภาพคล่อง ดูแลต้นทุนที่เหมาะสม หรือการแก้หนี้ ซึ่งจะเป็นช่วงของการให้ความสำคัญกับการใช้มาตรการเฉพาะจุด เพื่อจะเป็นจิ๊กซอว์ เพื่อช่วยเหลือประชาชน” ผู้ว่าแบงก์ชาติคนที่ 21 ลำดับที่ 25 กล่าว