นวัตกรรมเปลี่ยนโลก! การค้นพบสารสกัด “HeLP” กับบทบาทของ ม.อ. ในการขับเคลื่อนวิจัยเชิงพื้นที่และนวัตกรรมเพื่อสุขภาพ


ยางพาราพืชเศรษฐกิจสำคัญของภาคใต้และประเทศ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (ม.อ.) ยังคงมุ่งมั่นในการขับเคลื่อนงานวิจัยเชิงพื้นที่สู่ภาคอุตสาหกรรมด้วย “HeLP” สารชีวภาพกลุ่มพอลิแซ็กคาไรด์ ที่ค้นพบเป็นครั้งแรกของโลกใน “เซรั่มน้ำยางพารา” พลิกของเหลือทิ้งให้กลายเป็นวัตถุดิบมูลค่าสูง สำหรับอาหารเสริมสุขภาพ และเวชสำอาง พร้อมตั้งเป้าขยายผลสู่อุตสาหกรรมเชิงพาณิชย์และห่วงโซ่ยางพาราใหม่ของประเทศ

พูดคุยกับ รองศาสตราจารย์ ดร.เภสัชกร ฐณะวัฒน์ พิทักษ์พรปรีชา นักวิจัยคณะวิทยาศาสตร์ และผู้อำนวยการศูนย์ความเป็นเลิศด้านการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีชีวภาพจากน้ำยางพาราสู่เชิงพาณิชย์ (CERB) ถึงแผนยุทธศาสตร์ของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ในการผลักดันการใช้ประโยชน์งานวิจัย ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ โดยมีงบสนับสนุนและเชื่อมโยงนักวิจัยกับเอกชน เพื่อเร่งการถ่ายทอดสู่เชิงพาณิชย์และสร้างผลกระทบทางสังคมและเศรษฐกิจ

รองศาสตราจารย์ ดร.เภสัชกร ฐณะวัฒน์ พิทักษ์พรปรีชา กล่าวว่า จุดเริ่มต้นโครงการศูนย์วิจัยและพัฒนานวัตกรรมเทคโนโลยีชีวภาพเซรั่มน้ำยางพารา หรือ CERB เมื่อราวปี 2548 – 2549 ที่ชวนให้ศึกษาศักยภาพเซรั่มน้ำยางพารา ในส่วนที่อุตสาหกรรมทำยางแผ่นและยางแท่งมักทิ้งไป ทั้งที่ต้นยางพาราเมื่อถูกกรีดทุกวัน จะสามารถสร้างสารพิเศษเพื่อสมานแผลและต้านเชื้อได้ ทีมนักวิจัยจึงเชื่อว่าในส่วนที่ถูกทิ้งนั้น หากนำมาสกัดจะอุดมไปด้วยสารชีวภาพหลากชนิด จนเป็นที่มาในการเริ่มวิจัยอย่างเป็นระบบ และนำมาสู่การค้นพบสารสำคัญอย่าง “HeLP” ครั้งแรกของโลก

“การค้นพบ HeLP เป็นนวัตกรรมปรับสมดุลระดับเซลล์ และไทยเป็นชาติแรกที่พัฒนากระบวนการสกัดในระดับอุตสาหกรรมได้สำเร็จ สร้างโอกาสพัฒนาอุตสาหกรรมไบโอรีไฟเนอรี ช่วยเพิ่มมูลค่าวัตถุดิบเกษตร ส่งเสริมเศรษฐกิจ BCG และเป้าหมาย SDGs โดยใช้เซรั่มน้ำยางพาราที่เหลือทิ้งมาพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์มูลค่าสูง”

รองศาสตราจารย์ ดร.เภสัชกร ฐณะวัฒน์ กล่าวอีกว่า “HeLP” เป็นสารในกลุ่มพอลิแซ็กคาไรด์ที่พบในเซรั่มน้ำยางพารา มีคุณสมบัติเด่นหลายด้าน และทางทีมวิจัยได้พัฒนากระบวนการสกัดระดับอุตสาหกรรมแล้ว โดยสารนี้ทำงานผ่านแกนลำไส้ ภูมิคุ้มกัน และสมอง ในเชิงพรีไบโอติก ส่งเสริมจุลินทรีย์ประจำถิ่นที่เป็นประโยชน์ ช่วยปรับสมดุลการทำงานของร่างกายและภูมิคุ้มกันในทางเดินอาหาร ผลการทดลองพบแนวโน้มการกระตุ้นภูมิคุ้มกันให้สามารถทำลายเซลล์มะเร็งในระดับห้องปฏิบัติการ อีกทั้งยังมีฤทธิ์ช่วยสมานแผล ลดแผลในกระเพาะจากแอลกอฮอล์ และต้านการอักเสบได้อีกด้วย

“ยุทธศาสตร์วิจัยเชิงพื้นที่ของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ มุ่งใช้ยางพารา ซึ่งเป็นทรัพยากรหลักของภาคใต้และประเทศ เพื่อทำให้เกิดประโยชน์สูงสุดตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ “HeLP” จึงเป็นภาพสะท้อนที่ชัดเจนของการต่อยอดทรัพยากรที่อยู่ใกล้ตัว สู่ผลิตภัณฑ์ใหม่ที่จับต้องได้ ทั้งในเชิงพาณิชย์และเพื่อชุมชนท้องถิ่น”

ผลงานวิจัยครั้งนี้ยังสะท้อนถึงศักยภาพของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ในการเป็นมหาวิทยาลัยวิจัยเพื่อสังคม ที่สามารถบูรณาการองค์ความรู้จากหลากหลายสาขา นอกจากจะสร้างชื่อเสียงและความน่าเชื่อถือในระดับประเทศและนานาชาติแล้ว ยังได้ช่วยสร้างเครือข่ายความร่วมมือกับชุมชน ผู้ประกอบการ และภาคอุตสาหกรรมในพื้นที่อีกด้วย ซึ่งเป็นการขับเคลื่อนนโยบายเชิงพื้นที่ของมหาวิทยาลัยได้อย่างเป็นรูปธรรม

“เป้าหมายในระยะ 5-10 ปีข้างหน้าคือการผลักดัน “HeLP” ให้เป็น Functional Ingredients ที่ใช้จริงในอุตสาหกรรมอาหาร เวชสำอาง และสุขภาพ ทั้งในและต่างประเทศ เมื่อดีมานด์เติบโต ก็จะเกิดห่วงโซ่อุตสาหกรรมยางพาราใหม่ ที่ใช้น้ำยางได้ครบ 100 เปอร์เซ็น ไม่ใช่แค่เฉพาะเนื้อยาง ซึ่งจะช่วยเพิ่มมูลค่า สร้างเศรษฐกิจฐานชีวภาพ และวางรากฐานสู่ความยั่งยืนให้กับอุตสาหกรรมยางพาราไทยได้ในอนาคต” รองศาสตราจารย์ ดร.เภสัชกร ฐณะวัฒน์ พิทักษ์พรปรีชา นักวิจัยคณะวิทยาศาสตร์ และผู้อำนวยการศูนย์ความเป็นเลิศด้านการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีชีวภาพจากน้ำยางพาราสู่เชิงพาณิชย์ (CERB) กล่าวทิ้งท้าย


Comments

No comments yet. Why don’t you start the discussion?

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *