Exclusive Interview: “โป๊ยเซียน” เดินหน้า Upcycling พลาสติกเหลือใช้ บูรณะโบราณสถานไทย สร้างคุณค่าสู่สังคม


โดย : ดร.ณัฐพงศ์ ลาภบุญทรัพย์ กรรมการและที่ปรึกษาบริษัท โกลด์ มิ้นท์ โปรดักส์ จำกัด

ดร.ณัฐพงศ์ ลาภบุญทรัพย์
กรรมการและที่ปรึกษาบริษัท โกลด์ มิ้นท์ โปรดักส์ จำกัด

สโลแกนคุ้นหูที่ใครๆ ก็จำได้ “ใช้ดม ใช้ทา ในหลอดเดียวกัน” จาก “โป๊ยเซียน” วันนี้ก้าวสู่ปีที่  88 ในการดำเนินธุรกิจ เข้าสู๋เจเนอเรชั่นที่ 4 นำทัพสู่การรับมือต่อการเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจ โดยเฉพาะในมิติความยั่งยืนได้อย่างสอดรับจาก “ดร.ณัฐพงศ์ ลาภบุญทรัพย์ กรรมการและที่ปรึกษาบริษัท โกลด์ มิ้นท์ โปรดักส์ จำกัด”   

เส้นทางของ “โป๊ยเซียน” ดร.ณัฐพงศ์ ลาภบุญทรัพย์ กรรมการและที่ปรึกษาบริษัท โกลด์ มิ้นท์ โปรดักส์ จำกัด ผู้ผลิตและ จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ตราโป๊ยเซียน ทั้งยาดมตราโป๊ยเซียน พิมเสนน้ำตราโป๊ยเซียน ยาดมพีเป๊กซ์ และสินค้าในเครือ เล่าว่า ยาดมโป๊ยเซียนก่อตั้งขึ้นเป็นครั้งแรกในปี พ.ศ. 2479 เริ่มต้นจากการเป็นร้านขายยาสมุนไพรของชาวจีนแต้จิ๋วในย่านเยาวราช เน้นขายยาแผนโบราณประเภทต่างๆ โดยวันนี้โป๊ยเซียนมีอายุแล้วกว่า 88 ปี ซึ่งจากวันนั้นจนถึงวันนี้ ความท้าทายของการบริหารธุรกิจของต่างออกไป แต่สิ่งที่ทำให้เราครองใจผู้บริโภคได้อย่างยาวนาน คือ “คุณภาพสินค้า” โดยเราต้องซื่อสัตย์กับผู้บริโภค

ดร.ณัฐพงศ์ เล่าต่อไปว่า ธุรกิจของบริษัท โกลด์ มิ้นท์ โปรดักส์ จำกัด ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์หลายรายการด้วยกัน คือ ยาดมโป๊ยเซียน ใช้ดม ใช้ทา ในหลอดเดียวกัน , พิมเสนน้ำตราโป๊ยเซียน 3 ขนาด คือ พิมเสนน้ำแบบใส่ขวดแก้ว 3 ซีซี พิมเสนน้ำแบบโรลออนขนาด 5 ซีซี และพิมเสนน้ำใส่สำลีขนาด 8 ซีซี และยาดมหลอดสีแดงตรา “พีเป๊กซ์” ปัจจุบันบริษัทมียอดขายส่วนใหญ่มาจากในประเทศ ซึ่งมีทั้งลูกค้าชาวไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาเที่ยวในไทยและซื้อกลับไปเป็นของฝาก จากกระแสที่ไอดอลต่างชาติหลายคนหยิบจับยาดมโป๊ยเซียนลงโซเชียลจนเกิดเป็นกระแส ส่งผลให้โป๊ยเซียนได้รับความนิยมในกลุ่มต่างชาติมากขึ้น อย่างไรก็ตามนอกจากการพัฒนาและต่อยอดการดำเนินธุรกิจเพื่อให้สอดรับกับความต้องการของผู้บริโภคในยุคใหม่ อีกสิ่งที่ทางบริษัทให้ความสำคัญ คือ การมุ่งสร้างประโยชน์ต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งืนในห่วงโซ่อุปทานทางธุรกิจอย่างรอบด้าน

“ปัจจุบันโป๊ยเซียนได้เข้าไปมีส่วนร่วมในกิจกรรมต่างๆ ของสังคมมากขึ้น จากแต่เดิมผลิตภัณฑ์ของบริษัทถือเป็นยาแผนโบราณ อยู่ภายใต้พระราชบัญญัติยา พ.ศ. 2510 และฉบับที่แก้ไขเพิ่มเติม ทำให้มีข้อจำกัดในด้านการสื่อสารประชาสัมพันธ์ และการทำกิจกรรมต่างๆ แต่หลังจากนั้นผลิตภัณฑ์ของบริษัทได้เปลี่ยนให้มาอยู่ภายใต้พระราชบัญญัติผลิตภัณฑ์สมุนไพร พ.ศ.2562 ซึ่งมีรายละเอียดการควบคุมที่แตกต่างไปจากเดิม และเป็นโอกาสที่เป็นจะทำกิจกรรมต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ได้มากขึ้น” ดร.ณัฐพงศ์ กล่าวเสริม

ดร.ณัฐพงศ์ กล่าวต่อไปว่า เมื่อเร็วๆ นี้ “โป๊ยเซียน” ได้ริเริ่มโครงการ Upcycling โดยขับเคลื่อนผ่านแนวคิด Go Green Together” ด้วยการนำพลาสติกเหลือใช้ที่รวบรวมจากที่ต่างๆ นำมาบดอัดและทำเป็นก้อนอิฐสำหรับการบูรณะโบราณสถาน ซึ่งปัจจุบันได้มีการกำหนดจุดแล้วว่าก้อนอิฐเหล่านี้จะนำไปปูเป็นพื้นให้กับลานหน้าวิหารพระมงคลบพิตร วัดพระศรีสรรเพชญ์ อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ในพื้นที่ปรับปรุงใหม่ รวมกว่า 2,259 ตารางเมตร โดยใช้พลาสติกเหลือใช้ในการสร้างกว่า 9 ตัน ขณะนี้ทางโป๊ยเซียนขอเป็นจุดเชื่อมโยงที่สำคัญในการรวบรวมพลาสติกที่เหลือใช้ มาร่วมสร้างถนนไปกับโป๊ยเซียน ได้ที่ โครงการกรีนโรด 148/3 หมู่ที่ 19 ต.มะเขือแจ้ อ.เมือง จ. ลำพูน 51000  Tel.088-684-3104 ซึ่งเริ่มส่งพลาสติกมาร่วมโครงการได้แล้ววันนี้ ถึง 31 ตุลาคม 2567  โดยขอความร่วมมือทุกท่านช่วยกันอย่าลืมทำความสะอาดให้เรียบร้อยด้วย และต้องแยกขยะพลาสติกแต่ละประเภทออกจากกันทุกครั้ง

สำหรับเป้าหมายต่อจากนี้ ดร.ณัฐพงศ์ ปักธงไว้ว่า เราอยากสร้างให้ “โป๊ยเซียน” ให้เป็น Thai Herbal Product หรือผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทยในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมนี้เพื่อสร้างประโยชน์ให้กับห่วงโซ่อุปทานทั้งระบบอย่างยั่งยืน ไม่ว่าจะเป็น สังคม อาทิ วิสาหกิจชุมชน สินค้าระดับอำเภอ ระดับตำบล รวมถึงการมีส่วนร่วมในการดูแลสิ่งแวดล้อมผ่านการจัดกิจกรรมต่างๆ อีกประเด็นที่สำคัญ “เราอยากจะผลิตสินค้าที่ดีที่สุดให้กับผู้บริโภค” ซึ่งนี่ไม่ใช้คำสัญญา แต่เป็นสิ่งที่เราทุกคนพร้อมสร้างให้กับผู้บริโภคทุกคนมีสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดี


Comments

No comments yet. Why don’t you start the discussion?

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *