โตชิบา ไทยแลนด์ เผยผลประกอบการฉลองครบรอบ 55 ปี ครึ่งปีแรกเติบโตดีเกินคาด เติบโตสูงถึง 26% สูงเกินตลาด เตรียมรุกหนักครึ่งปีหลัง’67 ตั้งเป้าเติบโตทั้งปี 20% พร้อมเปิดตัวสินค้าใหม่ 27 รุ่น เน้นขยายไลน์อัพสินค้า ทำตลาด Mid to High มากขึ้น และส่งแคมเปญมากมายคืนกำไรให้ลูกค้า
มร.อเล็กซ์ มา รองประธาน บริษัท โตชิบา ไทยแลนด์ จำกัด กล่าวว่า “ภาพรวมตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน (ไม่รวมทีวี) ประเทศไทยในปี 2567 ครึ่งปีแรก มีอัตราการเติบโตรวมประมาณ 6% โดยหากมองเฉพาะเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดใหญ่ (Major Appliance) ได้แก่ ตู้เย็น เครื่องซักผ้า และเครื่องปรับอากาศ เติบโต 10% แต่หากไม่นับรวมเครื่องปรับอากาศ นับเฉพาะตู้เย็นและเครื่องซักผ้าจะเติบโต 5% ส่วนเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็ก (Small Appliance) ติดลบ 7%”
“ส่วนโตชิบา ไทยแลนด์ เราฉลองครบรอบ 55 ปีได้อย่างเต็มภาคภูมิ ด้วยผลประกอบการครึ่งปีแรกที่เติบโตเกินคาด มากถึง 26% จากทุกกลุ่มสินค้า โดยสินค้าที่เติบโตสูงสุด ได้แก่ เครื่องซักผ้า เติบโตมากถึง 47% เนื่องจากมีสินค้ารุ่นใหม่ ๆ ออกตลาดมากขึ้น โดยเฉพาะเครื่องซักผ้าฝาหน้า ประกอบกับสินค้าหลายรุ่นย้ายฐานการผลิตมาในประเทศไทย ทำให้มีความได้เปรียบในเรื่องราคา รวมไปถึงการบริหารซัพพลายเชน สำหรับสินค้าที่เติบโตรองลงมา ได้แก่ กลุ่มไมโครเวฟ เติบโตถึง 19% กลุ่มตู้เย็น 15% กลุ่มหม้อหุงข้าวและสินค้าชิ้นเล็ก 6% และกลุ่มผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับน้ำ เช่น เครื่องทำน้ำอุ่น 1% สำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับน้ำ แม้โตชิบาจะไม่ได้เติบโตมากนัก แต่ภาพรวมตลาดติดลบ เนื่องจากอากาศไม่เอื้ออำนวย และกลุ่มสุดท้ายคือเครื่องปรับอากาศ เราเติบโตมากถึง 103% เพียงแต่สัดส่วนการขายไม่มาก”
“จากผลประกอบการที่ดีต่อเนื่องมาตลอดหลายปี ทำให้ปัจจุบัน โตชิบามีมาร์เก็ตแชร์ติดอันดับท็อป 3 ในเกือบทุกกลุ่มสินค้า โดยไมโครเวฟมีมาร์เก็ตแชร์เป็นอันดับ 1 ด้วยแชร์ 28.5% ตู้เย็น อันดับ 2 ด้วยแชร์ 16% หม้อหุงข้าว อันดับ 2 ด้วยแชร์ 9.2% และเครื่องซักผ้า อันดับ 3 ด้วยแชร์ 10.8% และถ้าดูสถิติย้อนหลัง 5 ปี ตั้งแต่ปี 2562-2566 จะเห็นได้ว่าบริษัทฯ มีอัตราการเติบโตต่อปีแบบทบต้น (CAGR) เฉลี่ย 12% ซึ่งจากตัวเลขทั้งหมด มาจากความเชื่อมั่นในแบรนด์ และผลิตภัณฑ์โตชิบาที่ผู้บริโภคให้การยอมรับ ปัจจัยที่ทำให้บริษัทฯ เติบโตต่อเนื่อง และมีมาร์เก็ตแชร์อันดับต้น ๆ ของตลาด เพราะบริษัทฯ ไม่เคยหยุดที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ เพื่อให้ตอบสนองความต้องการของตลาดได้อย่างตรงกลุ่ม ทั้งนี้ในครึ่งปีแรก บริษัทฯ เปิดตัวสินค้าใหม่ไป 17 รุ่น โดยเน้นกลุ่มสินค้าที่เป็น Mid to High มากขึ้น นอกจากนี้เราบริหารจัดการภายใน ทั้งในเรื่องซัพพลายเชน และโอเปอเรชันทีมให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ในส่วนของช่องทางการจัดจำหน่าย ตั้งแต่ต้นปี เราเพิ่มพนักงานขายหน้าร้าน ประมาณ 20% มีการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกมากขึ้น เพื่อปรับแนวทางการบริหารช่องทางให้เหมาะสม รวมถึงยังคงให้ความสำคัญกับการปรับโฉมหน้าร้านค้าให้สวยงาม ทันสมัย และเพิ่มเติมพื้นที่พิเศษให้เป็น Experience Zone มากขึ้น ในส่วนการตลาด เราเปิดตัวแคมเปญใหญ่ 55 ปี โดยมีคุณหมาก ปริญ สุภารัตน์ เป็นแบรนด์ แอมบาสเดอร์ รวมถึงทำกิจกรรมต่อเนื่องทั้งออฟไลน์และออนไลน์ มีโปรโมชันส่งเสริมการขายและทำกิจกรรม ณ จุดขายอย่างต่อเนื่อง และส่วนสุดท้ายคือเรื่องบริการหลังการขาย ที่เราอัพเกรดภาพลักษณ์ และคุณภาพงานบริการให้รวดเร็ว พร้อมตอบสนองการเติบโตของลูกค้าโตชิบาที่เพิ่มมากขึ้น”
มร.อเล็กซ์ กล่าวเสริมว่า “โตชิบา ไม่ใช่แค่มุ่งหวังการขายผลิตภัณฑ์เท่านั้น แต่เราต้องการสร้างความมั่นใจให้ผู้บริโภค รวมถึงเติบโตยั่งยืนไปด้วยกัน สำหรับแผนครึ่งปีหลัง โตชิบาตั้งเป้าเติบโต 14% ซึ่งจะทำให้ตัวเลขภาพรวมทั้งปี เติบโตประมาณ 20% โดยวางกลยุทธ์หลักทั้งในเรื่องการออกสินค้าใหม่อีก 27 รุ่น เพื่อเพิ่มความหลากหลายของสินค้า เน้นสินค้ากลุ่มไฮเอนด์มากขึ้น และมีแผนเปิดตัวสินค้าเรือธง ตู้เย็น Japandi Series ที่จะมาสร้างปรากฎการณ์ใหม่ในตลาด นอกจากนี้ในส่วนของการพัฒนาช่องทางการจัดจำหน่าย มีแผนการเพิ่มพนักงานขายหน้าร้านมากขึ้นโดยเฉพาะในช่วง High Season และ Promotion เพื่อสามารถช่วยเหลือลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการได้อย่างรวดเร็วทั่วถึงยิ่งขึ้น รวมไปถึงการเพิ่ม Experience Zone ในสาขาหลักๆ เพิ่มมากขึ้น สำหรับในส่วนการตลาด เรายังคงมีแคมเปญการตลาดต่อเนื่อง โดยมีคุณหมาก ปริญ เป็นคีย์หลักในการเผยแพร่ มีการทำดิจิทัล มาร์เก็ตติ้งต่อเนื่อง รวมถึงทำโปรโมชันแคมเปญ ทำโรดโชว์ และกิจกรรมต่างๆ เพื่อเข้าถึงลูกค้าให้ได้สัมผัสประสบการณ์ในการใช้งานสินค้าดียิ่งขึ้น และสุดท้ายคือการให้ความสำคัญด้านบริการหลังการขาย ปรับโฉมศูนย์บริการโตชิบาทั่วประเทศ รวมถึงยกระดับการให้บริการมากขึ้น” นอกจากนี้ คุณอเล็กซ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า “ในภาพรวมเศรษฐกิจ เราไม่สามารถควบคุมได้ แต่เรายังคงเชื่อมั่นในประเทศไทย และเรามีความพร้อมและเตรียมแผนตั้งรับเสมอ”
นายเอกดนัย ตันติภูมิอมร ผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์ผลิตภัณฑ์ กล่าวว่า “ในครึ่งปีหลัง โตชิบามีแผนเปิดตัวสินค้าใหม่อีก 27 รุ่น โดยแบ่งเป็นกลุ่มตู้เย็น 8 รุ่น กลุ่มเครื่องซักผ้า 5 รุ่น กลุ่มเครื่องครัว 9 รุ่น และกลุ่มเครื่องใช้ในบ้านอีก 5 รุ่น แผนดังกล่าว สืบเนื่องจากภาพรวมตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าในครึ่งปีแรก สินค้ากลุ่มตู้เย็น และเครื่องซักผ้า มีอัตราการเติบโต 4.7% และสำหรับโตชิบาเอง ผลประกอบการครึ่งปีแรกของตู้เย็น และเครื่องซักผ้าเติบโตสูงถึง 26% จนทำให้สัดส่วนการตลาด (มาร์เก็ตแชร์) ของสินค้า 2 กลุ่มดังกล่าวโตขึ้นถึง 2.9% ซึ่งถือว่าเติบโตสูงสุดเมื่อเทียบกับแบรนด์อื่นๆ โดยเฉพาะตู้เย็นขนาดใหญ่ กลุ่มไซด์บายไซด์ และ 4 ประตู มัลติดอร์ เราเติบโตถึง 114% ในขณะเดียวกัน เครื่องซักผ้าฝาหน้าก็โตถึง 88%”
ดังนั้นแผนในครึ่งปีหลัง เราจึงมีแผนเปิดตัวตู้เย็นซีรีย์ใหม่ JAPANDI จำนวน 2 รุ่น คือตู้เย็น 4 ประตู แบบมัลติดอร์ รุ่น GR-RF695WIA-PGTH(67) ความจุ 18.9 คิว และตู้เย็น 4 ประตู แบบเฟรนช์ดอร์ รุ่น GR-RF690WI-PGTH(67) ความจุ 18.8 คิว