วันที่ 21 กันยายน 2567 ดร. ปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กล่าวว่า กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) ในฐานะหน่วยงานภายใต้สังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ได้ให้ความสำคัญต่อการอนุรักษ์และฟื้นฟูพันธุ์ไม้ป่าชายหาด ที่มีประโยชน์ต่อระบบนิเวศเป็นอย่างมาก ซึ่งป่าเหล่านี้เป็นตัวชี้วัดที่สำคัญของการเจริญเติบโตของพันธุ์พืชริมชายหาด และเป็นตัวคอยรักษาสมดุลของระบบนิเวศชายฝั่งกับระบบนิเวศบนบก สามารถทำหน้าที่เป็นกำแพงกันคลื่นธรรมชาติให้แก่ชายหาด ด้วยโครงสร้างรากของพืชในป่าบางชนิดที่มีความกว้างและซับซ้อน ก็จะคลุมหน้าดินและยึดทรายที่ถูกพัดเข้ามาให้ไม่ไปไหน จึงเป็นการลดการสูญเสียหาดทรายได้เป็นอย่างดี หรือกล่าวให้เห็นภาพคือ ป่าชายหาดทำหน้าที่คล้ายกับป่าชายเลน ถึงแม้ว่าความสำคัญและประโยชน์ของป่าชายหาดจะมีมากมาย แต่ปัจจุบันกลับได้รับความสนใจและการอนุรักษ์ค่อนข้างน้อย อาจเพราะคนส่วนใหญ่ไม่รู้จักป่าชายหาด ประกอบกับป่าชายหาดไม่ได้มีบทบาทและความสำคัญทางเศรษฐกิจมากพอที่จะทำให้เป็นที่สนใจ จึงทำให้ป่าชายหาดถูกมองข้าม ในการนี้ กรม ทช. ได้เดินหน้าขับเคลื่อนการดำเนินงานร่วมกับกรมอุทยาน แห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กรมป่าไม้ ที่จะอนุรักษ์และฟื้นฟูป่าชายหาดให้สมบูรณ์ ซึ่งเป็นหนึ่งในนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่มุ่งเน้นในการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ รวมถึงการรักษาสมดุลของระบบนิเวศท้องถิ่น การเพิ่มขีดความสามารถของชุมชนในการจัดการสิ่งแวดล้อม การปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ตลอดจนการสร้างการมีส่วนร่วมในการรับมือกับภัยธรรมชาติ และสนับสนุนการมีส่วนร่วมของชุมชนในการอนุรักษ์ ฟื้นฟู บริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างเหมาะสม จึงกำหนดจัดโครงการ “พลิกฟื้นผืนป่า สืบสานวิถีชีวิตที่ดีสู่ชุมชน เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567” ขึ้น และได้เลือกพื้นที่ วนอุทยานปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นสถานที่จัดกิจกรรม เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวและฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติในพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พร้อมทั้งเป็นการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ รักษาสมดุลของระบบนิเวศท้องถิ่นและการเพิ่มขีดความสามารถของชุมชนในการจัดการสิ่งแวดล้อม อีกทั้งยังเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ในโอกาสนี้ได้รับเกียรติจาก ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (รมว.ทส.) เป็นประธานพร้อมกล่าวมอบนโยบายการดำเนินงาน โดยมีนายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายสมคิด จันทมฤก ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นายประมวล พงศ์ถาวราเดช ส.ส.จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ตลอดจนคณะผู้บริหารในสังกัด ทส. องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้นำชุมชน กลุ่มชุมชนชายฝั่ง อาสาสมัครพิทักษ์ทะเล อาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหมู่บ้าน และประชาชนในพื้นที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ เข้าร่วมกิจกรรมกว่า 700 คน
ดร. ปิ่นสักก์ กล่าวเพิ่มเติมว่า กรม ทช. ได้นำนิทรรศการเกี่ยวกับภารกิจกรมฯ ในด้านสถานการณ์ชายฝั่งทะเล จ.ประจวบคีรีขันธ์ การจัดทำและวางปะการังเทียม และการจัดการขยะทะเล มาร่วมจัดแสดง และในโอกาสเดียวกัน รมว.ทส. ได้มอบอุปกรณ์ปฏิบัติงานให้แก่เครือข่ายเฝ้าระวังช้างป่าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานและอุทยานแห่งชาติกุยบุรี ซึ่งเป็นถุงเสบียงและอุปกรณ์ที่จำเป็นในการปฏิบัติหน้าที่ พร้อมทั้งมอบอุปกรณ์ดำรงชีพในป่าให้แก่เจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ เช่น เสื้อยืด ถุงเท้า ไฟฉาย ผ้าใบกันฝน กระติกน้ำสนาม หม้อสนาม แก๊สกระป๋อง ชุดปฐมพยาบาล ชุดป้องกันสัตว์มีพิษ เป็นต้น ตลอดจนมอบหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยในเขตป่าสงวนแห่งชาติ เพื่อดำเนินโครงการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชน (คทช.) พื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยมีพื้นที่ป่าชายเลน จำนวน 8 พื้นที่ และพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ จำนวน 13 พื้นที่ อีกทั้งมอบสมุดประจำตัวผู้ได้รับการแก้ไขปัญหาให้อยู่อาศัยทำกินในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ลุ่มน้ำชั้นที่ 1 และ 2 ซึ่งสามารถอยู่อาศัยทำกินในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย และยังสามารถพัฒนาสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานในพื้นที่ที่ได้รับอนุญาตได้ด้วย จะทำให้ประชาชนในพื้นที่มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และมอบกล้าไม้แก่ตัวแทนราษฎรในพื้นที่ ได้แก่ ต้นโกงกาง ต้นมะฮอกกานี จากนั้น รมว.ทส. นำคณะ และผู้เข้าร่วมงาน ปลูกป่าชายหาดจำนวน 720 ต้น ซึ่งเป็นต้นสนทะเล จิกทะเล มะค่าแต้ พร้อมร่วมเก็บขยะชายหาด และปล่อยพันธุ์ปูทะเล เพื่อเพิ่มแหล่งอาหารให้กับชุมชน จำนวน 72 คู่ อีกด้วย