โดย : นายตรีรัตน์ ศิริจันทโรภาส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท นิว เอ็นเนอร์จี พลัส โซลูชั่นส์ จำกัด หรือ NEPS

“จากในอดีตที่ประกอบธุรกิจนำเข้ากระดาษแต่ช่วงเวลาหนึ่งก็ถูกดิสรัปต์จากแพลตฟอร์มดิจิทัล ในฐานะผู้มาสานต่อกิจการ เราเชื่อมั่นว่า พลังงานทดแทนคือทิศทางที่สำคัญในอนาคตจึงเริ่มศึกษาธุรกิจโซลาร์เซลล์และก่อตั้งบริษัท นิว เอ็นเนอร์จี พลัส โซลูชั่นส์ จำกัด หรือ NEPS เพื่อรุกเข้าสู่ธุรกิจนี้อย่างเต็มตัว โดยหนึ่งมุมคิดที่สำคัญ คือ “ผมอยากเปลี่ยนพลังงานทางเลือก ให้เป็นพลังงานทางหลัก” ซึ่งหลายคนถามว่า ทำธุรกิจโซลาร์เซลล์เพราะอะไร ผมตอบอย่างมั่นใจ เพราะมันยั่งยืน” นายตรีรัตน์ ศิริจันทโรภาส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท นิว เอ็นเนอร์จี้ พลัส โซลูชั่นส์ จำกัด หรือ NEPS เผยถึงจุดเริ่มต้นที่สำคัญของ NEPS ที่ในวันนี้ถือเป็น ผู้นำด้านการให้บริการพลังงานแสงอาทิตย์ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยและได้มาตรฐานระดับสากล

นายตรีรัตน์เล่าถึงทิศทางสำคัญของพลังงานหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ ได้อย่างน่าสนใจว่า ทศวรรษที่ผ่านมาการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนยังไม่ได้รับความสนใจเท่ากับปัจจุบัน ซึ่งพลังงานแสงอาทิตย์ถือเป็นหนึ่งทางเลือกที่สำคัญ ด้วยปัจจัยที่ว่า ไทยมีศักยภาพในการขับเคลื่อนการผลิตไฟฟ้าจากโซลาร์เซลล์มากเพราะมีแสงแดดเกือบตลอดทั้งปี ที่สำคัญภาครัฐยังให้การสนับสนุนการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน ไม่ว่าจะเป็น มาตรการรณรงค์ให้ประชาชนติดตั้งโซลาร์เซลล์และในขณะนี้ ราคาแผงโซลาร์เซลล์มีราคาถูกลงกว่าที่ผ่านมา รวมถึงมาตรการทางภาษี เพื่อสนับสนุนประชาชนให้ติดตั้งอุปกรณ์ผลิตไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์
นายตรีรัตน์ ขยายความต่อไปว่า แม้พลังงานแสงอาทิตย์จะเป็นทางเลือกที่ดีโดยเฉพาะในภาคธุรกิจ แต่ทว่าการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์จะต้องขออนุญาตทั้งการผลิตไฟฟ้าและการขออนุญาตดัดแปลงอาคาร ซึ่ง NEPS มีบริการติดตั้งครอบคลุมถึงการขอใบอนุญาตกับภาครัฐ รวมทั้งช่วยออกแบบการติดตั้งให้เหมาะกับแต่ละอาคาร โดยพิจารณาจากเงื่อนไขต่างๆ เพื่อให้ติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์สอดคล้องกับความต้องการใช้ไฟฟ้าในแต่ละเดือน โดยปัจจุบันราคาติดตั้งขนาดเล็กที่สุดที่ NEPS ให้บริการ คือ 5 กิโลวัตต์ เสนอราคางานติดตั้งพร้อมบริการหลังการขายที่ 175,000 บาท เหมาะสมสำหรับผู้ใช้ไฟฟ้าเดือนละ 5,000 บาท จะมีระยะเวลาคืนทุน 6 ปี แต่ถ้าภาครัฐให้การสนับสนุนตามแนวทางดังกล่าวจะทำให้ต้นทุนการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ของประชาชนลดลง และจะทำให้ประชาชนมีโอกาสเข้าถึงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์มากขึ้น

“และเมื่อเร็วๆ นี้ NEPS ได้เข้าไปติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปให้กับ “ไซเบอร์พริ้นท์กรุ๊ป” ที่นิคมอุตสาหกรรมสินสาคร ขนาดติดตั้ง 999.2 กิโลวัตต์ บนพื้นที่ 4500 ตารางเมตร มูลค่าการลงทุนกว่า 23 ล้านบาท โดยทำการติดตั้งเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา สามารถช่วยลดค่าไฟได้กว่า 520,000 บาท/เดือน อีกทั้งยังช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ไปแล้ว 9,730 กิโลกรัม เทียบเท่ากับการปลูกต้นไม้ 13,154 ต้น ขณะที่ “รุ่งศิลป์การพิมพ์” นั้นได้ทำการติดตั้งโซลาร์รูฟท็อป ณ โรงงานที่จังหวัดนครปฐม บนพื้นที่ 3,200 ตารางเมตร มีกำลังผลิตไฟฟ้ากว่า 700 กิโลวัตต์ มูลค่าการลงทุนกว่า 18 ล้านบาท โดยหลังจากทำการติดตั้งแล้วจะสามารถคืนทุนให้กับทางโรงพิมพ์ได้ภายใน 4 ปี” นายตรีรัตน์ กล่าวเสริม
นายตรีรัตน์ กล่าวต่อไปว่า สำหรับ NEPS ได้ส่งมอบบริการคุณภาพให้กับลูกค้าในรูปแบบ “One Stop Solutions” ตั้งแต่การออกแบบ การขอใบอนุญาต การติดตั้ง การดูแลบำรุงรักษาฟรี 2 ปี และส่งรายงานแสดงผลการใช้งานประจำปี ให้อีก 25 ปี พร้อมบริการที่เหนือระดับกับแอปพลิเคชันจากอินเวอร์เตอร์ SolarEdge ที่สามารถดูการใช้ไฟฟ้าได้แบบเรียลไทม์ และแสดงผลด้านต่างๆ เช่น ค่าไฟฟ้าที่ลดลง ตัวเลขเปรียบเทียบค่าการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และจำนวนเทียบเท่าของการปลูกต้นไม้ เป็นต้น ซึ่งโรงพิมพ์สามารถนำข้อมูลดังกล่าวไปใช้ประโยชน์สำหรับการดำเนินการเกี่ยวกับคาร์บอนเครดิตได้ในอนาคต เราเชื่อว่าไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนอย่างเช่น พลังงานแสงอาทิตย์จะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญสู่การเปลี่ยนผ่านของภาคพลังงานในอนาคต ซึ่ง NEPS พร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อน