Exclusive Interview: SMS เดินหน้าสู่อนาคตด้วยนวัตกรรมความยั่งยืน ขยายตลาดโลกปี 2568


โดย : บริษัท เอสเอ็มเอส คอร์ปอเรชั่น จํากัด

​”กลุ่มบริษัท เอส เอ็ม เอส ก่อตั้งมากว่า 40 ปี เป็นผู้นําในการผลิตแป้งมันสําปะหลังดัดแปรคุณภาพสูงของประเทศไทยและของโลก ตอบสนองความ ต้องการของอุตสาหกรรมที่หลากหลายทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยเป็นผู้ริเริ่มนําแป้งมันสําปะหลังซึ่งเป็นสินค้าสําคัญทางการเกษตรมาดัด แปรผ่านการวิจัยและพัฒนาด้วยนวัตกรรมเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่แป้งมันสําปะหลัง เพื่อนําไปใช้ประโยชน์ในอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น อาหาร ยา กระดาษ สิ่งทอ กาว อาคารและสิ่งก่อสร้าง รวมถึงพลาสติกชีวภาพ” ดร.วีรวัฒน์ เลิศวนวัฒนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสเอ็มเอส คอร์ปอเรชั่น จํากัด เผยถึงภาพรวมการดำเนินธุรกิจ

ดร.วีรวัฒน์ เลิศวนวัฒนา
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร
บริษัท เอสเอ็มเอส คอร์ปอเรชั่น จํากัด

กลุ่มบริษัท เอส เอ็ม เอส กับประสบการณ์กว่า 4 ทศวรรษในฐานะผู้นำใน “ธุรกิจการเกษตร”

ดร.วีรวัฒน์ กล่าวว่า กลุ่มบริษัท เอส เอ็ม เอส (SMS Corporation Company Limited) พวกเรามีประสบการณ์ในธุรกิจการเกษตรมากว่า 40 ปี บริษัทฯ เป็นผู้นำในการผลิตและจัดจำหน่ายแป้งมันสำปะหลังดัดแปรคุณภาพสูง ผลิตภัณฑ์ของบริษัทถูกนำไปใช้ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ เช่น อาหาร กระดาษ สิ่งทอ ก่อสร้าง และล่าสุดในอุสาหกรรมยา โดยมีโรงงานผลิต 3 แห่งในจังหวัดปทุมธานี ชัยภูมิ และบุรีรัมย์ มีกำลังการผลิตรวมประมาณ 400,000 ตันต่อปี

“บริษัทฯ ให้ความสำคัญกับการวิจัยและพัฒนา (R&D) โดยมีทีมงานมากกว่า 80 คน เพื่อสร้างนวัตกรรมและเพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์จากมันสำปะหลัง โดยนวัตกรรมที่โดดเด่นคือการพัฒนาเม็ดพลาสติกชีวภาพจากแป้งมันสำปะหลังดัดแปร ภายใต้แบรนด์ TAPIOPLAST® ซึ่งสามารถย่อยสลายได้ทางชีวภาพและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และนวัตกรรมที่สะท้อนถึงความมุ่งมั่นด้านความยั่งยืนทางสุขภาพ คือแป้งสำหรับผลิตภัณฑ์ยา ที่พัฒนาให้เป็นสารช่วยทางเภสัชกรรมให้มีคุณภาพได้มาตรฐานสากล เพื่อให้ทุกคนสามารถเข้าถึงยาที่มีคุณภาพได้ในราคาที่เป็นมิตร อีกหนึ่งนวัตกรรมในด้านอุสาหกรรมดูแลส่วนบุคคลและความงาม โดยการทดแทนส่วนผสมสังเคราะห์ เพื่อช่วยเสริมศักยภาพให้แบรนด์สามารถสร้างผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ในขณะที่ยังคงประสิทธิภาพและคุณสมบัติการใช้งานไว้อย่างครบถ้วน นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมุ่งเน้นการขยายตลาดส่งออก โดยปัจจุบันส่งออกผลิตภัณฑ์ไปกว่า 70 ประเทศทั่วโลก และมีแผนที่จะขยายตลาดไปยังยุโรปและอเมริกาใต้ เพื่อรองรับเทรนด์การบริโภคอาหารเพื่อสุขภาพที่กำลังเติบโตในต่างประเทศ” ผู้บริหารขยายความ

เปิดแผนงานปี 2568

ดร.วีรวัฒน์ กล่าวต่อไปว่า สำหรับแผนงานในปี 2568 บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายที่จะเป็นผู้นำระดับโลกในด้านการผลิตแป้งมันสำปะหลังดัดแปร โดยมุ่งเน้นการสร้างสรรค์นวัตกรรมและการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว รวมถึงการขยายตลาดส่งออกและการลงทุนในเทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต

“บริษัทฯ มีแผนที่จะขยายการส่งออกแป้งมันสำปะหลังดัดแปรไปยังตลาดยุโรปและอเมริกาใต้ เพื่อรองรับเทรนด์การบริโภคอาหารเพื่อสุขภาพในต่างประเทศ แม้จะมีอุปสรรคด้านกำแพงภาษีและการกีดกันทางการค้า แต่บริษัทฯ ยังคงมุ่งมั่นที่จะนำผลิตภัณฑ์จากไทยเข้าสู่ตลาดโลกและเป็นผู้นำในการส่งออกแป้งดัดแปร ฉะนั้นกล่าวโดยสรุปได้ว่า แผนงานของกลุ่มบริษัท เอส เอ็ม เอส ในปี 2568 มุ่งเน้นการขยายตลาดส่งออกและการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ที่ตอบสนองความต้องการของตลาดและสอดคล้องกับแนวโน้มการบริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป” ดร.วีรวัฒน์ กล่าวเสริม

ดร.ศิวรัตน์ บุญยรัตกลิน
ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายนวตกรรม
บริษัท เอสเอ็มเอส คอร์ปอเรชั่น จํากัด

มิติความยั่งยืน พันธกิจสำคัญของ กลุ่มบริษัท เอส เอ็ม เอส

ดร.ศิวรัตน์ บุญยรัตกลิน ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายนวัตกรรม บริษัท เอสเอ็มเอส คอร์ปอเรชั่น จํากัด กล่าวว่า กลุ่มบริษัท เอส เอ็ม เอส ในฐานะผู้นําในอุตสาหกรรมยังคงมุ่งเน้นการเป็นส่วนหนึ่งของ สังคม สิ่งแวดล้อมและชุมชนเพื่อความเติบโตและและการมีส่วนร่วมกับชุมชน เพื่อพัฒนาร่วมกันอย่างยั่งยืน ผ่านการดำเนินการในหลายมิติ อาทิ ได้พัฒนาเม็ดพลาสติกชีวภาพจากแป้งมันสำปะหลังดัดแปร ภายใต้แบรนด์ TAPIOPLAST® ซึ่งสามารถย่อยสลายได้ทางชีวภาพ ไม่ก่อให้เกิดมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม รวมทั้งเป็นแกนกลางในการจัดงานฟอรั่ม “Transforming Tomorrow: The Innovation Forum Experience” เพื่อส่งเสริมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมพลาสติกชีวภาพอย่างยั่งยืน และในเดือนกุมภาพันธ์ 2568 บริษัทฯ ได้จัดกิจกรรม “Cultivating a Green Future for Sustainable Growth” ณ ศูนย์พัฒนาและฝึกอบรมวิมานดิน มหาวิทยาลัยมหิดล วิทยาเขตกาญจนบุรี กิจกรรมประกอบด้วยการปลูกต้นไผ่ 100 ต้น จาก 5 สายพันธุ์ บนพื้นที่กว่า 4 ไร่ เพื่อฟื้นฟูป่าไม้และเพิ่มพื้นที่สีเขียว รวมถึงการสร้างฝายชะลอน้ำแบบผสมผสาน จำนวน 15 ฝาย เพื่อฟื้นฟูทรัพยากรน้ำและป่าไม้ในพื้นที่

“ท่ามกลางความท้าทายด้านสิ่งแวดล้อมที่ทั่วโลกกำลังเผชิญ บริษัท เอสเอ็มเอส คอร์ปอเรชั่น จำกัด ได้ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำในการขับเคลื่อนธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจัง โดยวางกลยุทธ์การดำเนินงานที่มุ่งเน้นความยั่งยืนในทุกมิติ   ด้วยวิสัยทัศน์ที่ก้าวไกล บริษัทฯ ได้ผสานความร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจและชุมชนท้องถิ่น เพื่อสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม การดำเนินงานของบริษัทฯ ไม่เพียงแต่คำนึงถึงผลประกอบการทางธุรกิจเท่านั้น แต่ยังให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและการพัฒนาคุณภาพชีวิตของชุมชนโดยรอบ ความยั่งยืนไม่ใช่เพียงเป้าหมาย แต่เป็นหัวใจสำคัญในการดำเนินธุรกิจของเรา ซึ่ง เรามุ่งมั่นที่จะเป็นต้นแบบขององค์กรที่สร้างการเติบโตทางธุรกิจควบคู่ไปกับการรักษาสมดุลของระบบนิเวศ” ดร.ศิวรัตน์ กล่าวทิ้งท้าย


Comments

No comments yet. Why don’t you start the discussion?

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *