โดย : นายปิ่นยศ พิบูลสงคราม รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฝ่ายการพาณิชย์และลูกค้าสัมพันธ์ เวียตเจ็ทไทยแลนด์
นางสาวสญาดา เบญจกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายองค์กรสัมพันธ์ เวียตเจ็ทไทยแลนด์
“สายการบินเวียตเจ็ทไทยแลนด์ ประกาศทิศทางการเติบโตในช่วง 3–5 ปีข้างหน้า พร้อมชูจุดแข็งด้านการสร้างประสบการณ์ที่แตกต่างให้แก่ผู้โดยสาร การขยายเครือข่ายเส้นทางบินทั้งในและต่างประเทศ และการวางกลยุทธ์ด้านการตลาดที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่ ขณะเดียวกันยังตอกย้ำบทบาทในการสนับสนุนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยควบคู่ไปกับการดำเนินธุรกิจที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมและสังคม ภายใต้กรอบ ESG” นายปิ่นยศ พิบูลสงคราม รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฝ่ายการพาณิชย์และลูกค้าสัมพันธ์ เวียตเจ็ทไทยแลนด์ เผยถึงทิศทางการเดินหน้าธุรกิจที่สอดรับต่อการเปลี่ยนแปลงอย่างเท่าทัน
รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฝ่ายการพาณิชย์และลูกค้าสัมพันธ์
วิสัยทัศน์การเติบโตเชิงพาณิชย์ในอีก 3–5 ปี
นายปิ่นยศ เปิดเผยว่า ในช่วง 3–5 ปีข้างหน้า เวียตเจ็ทไทยแลนด์มุ่งมั่นที่จะก้าวขึ้นเป็นหนึ่งในสายการบินที่มีบทบาทสำคัญในการเชื่อมต่อเครือข่ายการบินในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเน้นการเติบโตทางการพาณิชย์อย่างมั่นคงและยั่งยืน ผ่านการเพิ่มขีดความสามารถด้านฝูงบิน การพัฒนาเส้นทางบินใหม่ และการยกระดับบริการ
“เรามองว่าการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมการบินและการท่องเที่ยวหลังโควิด-19 เป็นโอกาสสำคัญ เวียตเจ็ทไทยแลนด์จะใช้ความคล่องตัวในการดำเนินธุรกิจ ผสานกับการบริหารจัดการต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ เพื่อสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน” นายปิ่นยศ กล่าวเสริม
สร้างประสบการณ์ลูกค้าที่แตกต่าง
“เวียตเจ็ทไทยแลนด์ให้ความสำคัญกับการสร้างความแตกต่างในทุกจุดสัมผัสของลูกค้า ตั้งแต่การจองตั๋ว ช่องทางดิจิทัล ไปจนถึงประสบการณ์บนเครื่องบิน ทั้งนี้บริษัทได้ลงทุนในระบบดิจิทัลเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้โดยสาร เพิ่มความรวดเร็วในการเช็กอิน และพัฒนาช่องทางการสื่อสารที่เข้าถึงง่าย โดยการนำระบบ Chatbot เข้ามาทำงานควบคู่กับพนักงาน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการลูกค้าให้รวดเร็วและครบถ้วนยิ่งขึ้น สิ่งที่เราให้ความสำคัญคือการสร้างความประทับใจทั้งในด้านการบริการที่อบอุ่นและเป็นมิตร และในด้านภาพลักษณ์ของแบรนด์ที่ทันสมัย มีเอกลักษณ์ และสอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของนักเดินทางรุ่นใหม่” นายปิ่นยศ กล่าวเสริม
การขยายเส้นทางบินใหม่ – รุกตลาดที่ตอบโจทย์ Gen Z และนักเดินทางรุ่นใหม่
นายปิ่นยศ กล่าวต่อไปว่า สำหรับปีนี้ เวียตเจ็ทไทยแลนด์มีแผนที่จะขยายเส้นทางบินทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยมุ่งเน้นการเชื่อมต่อเมืองหลักกับเมืองรอง และเพิ่มเส้นทางบินตรงสู่จุดหมายปลายทางยอดนิยมในภูมิภาคเอเชีย เช่น เวียดนาม จีน และอินเดีย รวมถึงเส้นทางท่องเที่ยวใหม่ ๆ เช่น ญี่ปุ่น (โตเกียว โอซาก้า และฟุกุโอกะ) เกาหลีใต้ (อินชอน) และโดยเฉพาะเส้นทางประเทศอินเดีย ที่ตอนนี้ตลาดการท่องเที่ยวขยายตัวอย่างต่อเนื่องและเติบโตอย่างมีนัยยะสำคัญ เราจึงหันมาให้ความสำคัญกับเส้นทางอินเดียมากขึ้น โดยเปิดเส้นทางใหม่อย่าง อาห์เมดาบัด และโกลกาตา และยังมีแผนจะขยายเส้นทางไปยังเมืองอื่น ๆ อีกในปีหน้า เพื่อรองรับความต้องการของผู้โดยสารที่ต้องการความสะดวกและหลากหลาย ทั้งนี้ด้วยการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมผู้บริโภค เวียตเจ็ทไทยแลนด์ได้วางกลยุทธ์การตลาดที่เน้นการใช้แพลตฟอร์มดิจิทัล สื่อโซเชียลมีเดีย และการทำแคมเปญที่สร้างการมีส่วนร่วมสูง (interactive campaigns) เพื่อเข้าถึงกลุ่ม Gen Z และนักเดินทางรุ่นใหม่
“เราต้องการสื่อสารกับคนรุ่นใหม่ผ่านช่องทางที่พวกเขาใช้จริง และในภาษาที่เขาเข้าใจ โดยนำเสนอทั้งความคุ้มค่า ความสนุก และความยั่งยืนในการเดินทาง” ผู้บริหารกล่าวเสริม
ขับเคลื่อนการท่องเที่ยวไทยสู่เมืองรอง – แนวโน้มอุตสาหกรรมการบินและการรับมือ
อีกหนึ่งพันธกิจสำคัญของเวียตเจ็ทไทยแลนด์ คือการสนับสนุนการท่องเที่ยวไทย โดยเฉพาะในเมืองรองหรือจุดหมายปลายทางใหม่ ๆ ที่ยังไม่เป็นที่รู้จักมากนัก ผ่านการเปิดเส้นทางบินตรงและจัดโปรโมชั่นร่วมกับหน่วยงานด้านการท่องเที่ยว ทั้งนี้ยังได้ให้ความเห็นต่อแนวโน้มของอุตสาหกรรมการบินในระดับภูมิภาคว่า จะเผชิญกับการแข่งขันที่เข้มข้นขึ้นจากการเปิดเสรีการบินและการเข้ามาของสายการบินต้นทุนต่ำรายใหม่ รวมถึงความท้าทายด้านต้นทุนเชื้อเพลิงและสิ่งแวดล้อม โดยเวียตเจ็ทไทยแลนด์เตรียมพร้อมรับมือด้วยการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิง ลงทุนในเทคโนโลยีการบินใหม่ และสร้างความแตกต่างด้านบริการที่ตอบโจทย์ลูกค้า
รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฝ่ายองค์กรสัมพันธ์
เวียตเจ็ทไทยแลนด์: มุ่งสู่ความยั่งยืนด้วยกรอบ ESG
“นอกจากทิศทางการเติบโตทางธุรกิจแล้ว เวียตเจ็ทไทยแลนด์ยังให้ความสำคัญกับความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม โดยดำเนินงานตามกรอบ ESG เพื่อสร้างการเติบโตที่ยั่งยืน” นางสาวสญาดา เบญจกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายองค์กรสัมพันธ์ สายการบินเวียตเจ็ทไทยแลนด์ กล่าวว่า บริษัทได้ดำเนินมาตรการหลายด้านเพื่อช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดย เวียตเจ็ทไทยแลนด์เดินหน้าลงทุนในฝูงบินรุ่นใหม่ที่มีประสิทธิภาพสูงด้านการประหยัดพลังงาน เช่น Boeing 737-8 ซึ่งสามารถลดการปล่อยก๊าซ CO₂ ได้มากถึง 16% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า ทั้งนี้ยังมีการปรับปรุงกระบวนการปฏิบัติการบิน เช่น การลดน้ำหนักสัมภาระบนเครื่อง และการจัดการพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ
“ในด้านสังคม เวียตเจ็ทไทยแลนด์ดำเนินโครงการเพื่อสนับสนุนชุมชนท้องถิ่น เช่น การมอบโอกาสการทำงานแก่บุคลากรรุ่นใหม่ในภูมิภาค การสนับสนุนกิจกรรมด้านการศึกษาและกีฬา รวมถึงการเข้าร่วมโครงการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ เราเชื่อมั่นว่าธุรกิจที่เติบโตควบคู่กับการดูแลสังคมและสิ่งแวดล้อม จะสร้างคุณค่าอย่างแท้จริง ทั้งต่อผู้โดยสาร ชุมชน และอุตสาหกรรมการบินในระยะยาว” นางสาวสญาดา กล่าวเสริม
ล่าสุดทางเวียตเจ็ทไทยแลนด์ได้มีการดึง “วีนา – ปวีนา ซิงห์” มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2025 และ Miss Vietjet Fly Green” คนแรกของสายการบินเวียตเจ็ทไทยแลนด์ มาร่วมเป็นตัวแทนสร้างแรงบันดาลใจด้านสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนให้กับคนรุ่นใหม่ ซึ่งสอดคล้องกับพันธกิจ Fly Green ของสายการบินฯ ในการดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ตลอดจนการสร้างความตระหนักรู้ถึงการพัฒนาที่ยั่งยืน เพื่อให้ทุกคนได้เป็นส่วนหนึ่งในการร่วมผลักดันอุตสาหกรรมการบินไปสู่เป้าหมาย NET ZERO 2050
“เวียตเจ็ทไทยแลนด์กำลังเดินหน้าอย่างมั่นคงสู่การเป็นสายการบินที่ไม่เพียงแต่แข่งขันได้ในระดับภูมิภาค แต่ยังเป็นกำลังสำคัญในการส่งเสริมการท่องเที่ยวไทย และสร้างความยั่งยืนในทุกมิติ ทั้งด้านพาณิชย์ ประสบการณ์ลูกค้า และการดำเนินธุรกิจที่รับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม” ผู้บริหาร กล่าวทิ้งท้าย
