The Eyedol :ต่าย นัฐฐพนธ์ ลียะวณิช


เส้นชัยที่งดงามไม่ได้เกิดขึ้นจากการวาดฝัน แต่เกิดจากการไม่หยุดนิ่งด้านการพัฒนาตนเอง

ในเรื่องของการเรียนรู้ที่ต้องหมั่นเพียร มานะ และมุ่งมั่นอยู่เสมอ หนึ่งมุมคิดที่ผลิตแนวทางการดำเนินชีวิตและประกอบธุรกิจให้เกิดความท้าทายและขับเคลื่อนไปสู่เป้าหมายได้อย่างมั่นคง “ต่าย นัฐฐพนธ์ ลียะวณิชหรือต่าย “ นักแสดงและผู้จัด

เส้นทางชีวิตของพี่ต่าย เป็นอย่างไรบ้าง และก้าวมาสู่วันนี้ในอาชีพนักแสดงที่เป็นดั่งไอดอลของใครหลายคน?

ผมเริ่มเข้าสู่วงการในวัย 16 ปี ด้วยการถ่ายแบบโฆษณา แสดงภาพยนตร์ และเมื่อเริ่มเป็นที่รู้จักได้รับโอกาสเล่นละครจากทางช่อง 3 โดยละครเรื่องแรก คือ คนของแผ่นดิน รับบทเป็น อานนท์ หลังจากนั้นก็ได้ฝากผลงานละครอีกหลากหลายเรื่อง อาทิ ไอ้ม้าเหล็ก นางฟ้าผ้าขี้ริ้ว บริษัทประกันรก 100% เพลิงพราย คุณนายสามสลึง กลกิโมโน และอื่นๆอีกมากมาย เป็นระยะเวลากว่า 20 ปี ในวงการนักแสดง

ประสบการณ์ในการอยู่วงการบันเทิงกว่า20ปี พี่ต่ายคิดว่าอะไรคือเสน่ห์ของวิชาชีพนี้?

วงการบันเทิงเสมือนเวทีแห่งการเรียนรู้เพราะมีงานหลากหลายด้านให้เราพัฒนาตนเอง อาทิ การแสดงก็แตกย่อยรายละเอียดออกไปในหลากมิติ ยกตัวอย่างเช่น การแสดงโฆษณาก็แตกต่างจากการแสดงละครหรือภาพยนตร์ ในแง่มุมอารมณ์ ความรู้และความใจจากสินค้า รวมทั้งการดึงจุดเด่นของผลิตภัณฑ์ เป็นต้น อย่างไรก็ดีไม่เพียงแต่บทละครตัวเองยังเป็นmyh’วีเจให้กับทาง MTV และดีเจช่อง EFM โดยภาพรวมงานเบื้องหน้าทั้งหมดทำให้เราได้เรียนรู้ในทุกวัน โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าที่พร้อมทดสอบเราอยู่เสมอ ซึ่งหลังจากการทำงานเบื้องหน้ามาโดยตลอด ตนมีแรงบันดาลใจและความมุ่งมั่นครั้งใหม่ในการที่จะหันมาทำงานเบื้องหลัง โดยในขณะนี้ ผมได้เริ่มเป็นผู้จัดหรือออแกไนซ์เซอร์อย่างเต็มตัว เริ่มดำเนินผลิตรายการ The Giving ตั้งแต่ปี พ.ศ.2553 พร้อมกับผลิตโฆษณาควบคู่ไปด้วย และที่สำคัญในตอนนี้ยังพร้อมรับการจัดกิจกรรมทุกรูปแบบ เช่น โครงการในหลวงในดวงใจ รวมทั้งงาน Run For Dad จากทาง ป.ป.ส. เป็นต้น

หลังจากการผันตัวเองมาเป็นผู้จัดหรือคนเบื้องหลัง อะไรคือกระบวนการคิดที่สำคัญในการทำงาน ?

ผมเป็นคนที่ทำงานเยอะมากๆครับ ผมมุ่งเน้นการทำงานในทุกลมหายใจแล้วก็สนุกไปกับมันมากกว่าครับ และนัยยะสำคัญคือการสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีของทีมงานให้เติบโตไปด้วยกัน อีกอย่าง ผมเชื่อเสมอว่า ทุกอย่างคือ “การเรียนรู้” ไม่ว่าโอกาสใดๆที่เข้ามาผมพร้อมที่จะเปิดรับอย่างเต็มใจ เมื่อมีโอกาสนั้นแล้วเราควรปฏิบัติด้วยความ “มุ่งมั่น” และสิ่งสำคัญต้อง “ตั้งใจ” เพื่อให้ผลลัพธ์ทุกชิ้นงานที่ออกมาเต็มเปี่ยมไปด้วยคุณภาพ

ภาพรวมของทีมงานในบริษัทฯ เป็นอย่างไร?

ทีมงานของเราไม่เยอะครับ แต่เรามุ่งปลูกฝังให้คนคนหนึ่งสามารถทำงานได้มากกว่าหนึ่งอย่าง แต่ต้องอยู่บนกรอบพื้นฐานความสุขและความแข็งแรงในการเรียนรู้ที่คุณจะได้รับมากกว่าบุคคลอื่น

วันนี้เรียกได้ว่าบริษัทฯ ประสบความสำเร็จหรือยัง ?

ยังครับ เรายังมีแนวทางการพัฒนาอีกหลากหลายด้าน ที่สำคัญท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงที่ไวของธุรกิจสมัยใหม่ คำว่าประสบความสำเร็จหมายถึงหยุดอยู่กับที่หรือเปล่า เพราะถ้าหากเป็นแบบนั้นผมขอไม่หยุดนิ่งที่จะไขว่คว้าความสำเร็จอยู่ตลอดเวลาดีกว่า

และถ้าหากไม่ใช่คำว่า “ความสำเร็จ” แต่เป็นคำว่า “เป้าหมาย” วันนี้พี่ต่ายคิดว่าทำได้ตรงตามที่ตัวเองตั้งไว้หรือยัง?

สำหรับผม “เป้าหมาย” มีทุกวัน เพราะ “การเรียนรู้” เกิดขึ้นในทุกเวลา

ทำงานหนักแบบนี้ มีเคล็ดลับการดูแลสุขภาพหรือการจัดการเวลาอย่างไร ?

2-3 ปีที่ผ่านมาผมให้ความสำคัญกับ “ความสมดุล” มากครับ ซึ่งการมีชีวิตที่ดีนั้น “ร่างกายต้องแข็งแรง” โดยส่วนตัวผมได้หันมาออกกำลังกาย โดยเฉพาะการเล่น เคเบิ้ลสกี ต่อยมวยและปั่นจักรยาน เพราะเมื่อเราได้เผาผลาญพลังงานส่วนเกินหรือได้ทำอะไรที่ผ่อนคลาย ปลดปล่อยความตึงเครียด นอกจากสุขภาพที่ดีขึ้นแล้ว ไอเดียการคิดงานต่างๆก็ดูสดใสและปลอดโปร่งมากยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันนอกจากการออกกำลังกายผมต้องบริหารเวลาให้กับ ครอบครัว ญาติและเพื่อนอย่างสมส่วน อย่างไรก็ตาม ความสมดุลของผมไม่ได้หมายความว่าชิ้นงานของผมจะลดลง แต่สามารถพัฒนาตนเองให้ผลิตชิ้นงานได้มากขึ้นในช่วงระยะเวลาที่น้อยลง นี่คือสิ่งที่ผมกำลังยกระดับประสิทธิภาพตัวเองให้เกิดความคุ้มค่าที่สุด

ความแตกต่างระหว่างการเป็น “นักแสดง” และ “ผู้จัด” ?

แตกต่างสุดขั้วครับ เพราะการเป็นผู้จัดต้องเก็บในทุกรายละเอียดของงานที่รับผิดชอบ อาทิ บทแสดง เครื่องแต่งกาย นักแสดง ตลอดจนสถานที่ใช้ประกอบฉาก ที่สำคัญเราต้องเอาตัวเราไปเป็นตัวละครมากขึ้น

มีมุมไหนบ้างที่พี่ต่ายคิดว่าหลายๆคนยังไม่รู้ถึงมุมๆนี้?

หลายคนอาจจะมองว่าผมดูเครียด ละเอียด และจริงจัง ในทางกลับกันผมเป็นคนสบายๆ มีความเด็กแฝงอยู่ในตัวของช่วงเวลาพักผ่อน

มีสิงใดที่อยากทำอะไรต่อจากนี้ ?

ใจจริงอยากเปิด “รีสอร์ท ร้านอาหารและร้านกาแฟ” ซึ่งธุรกิจดังกล่าวเป็นธุรกิจที่มีความละเอียดสูง ต้องลงไปบริหารและเติมเต็มในทุกจุดด้วยความตั้งใจจริง ในการทำร้านอาหาร เราต้องใส่ใจมากๆ ตั้งแต่การเริ่มคัดสรรวุตถุดิบ การเลือกภาชนะใส่อาหารหรือแม้กระทั้งการตกแต่งภายในด้วยธีมต่างๆกระแสโลกสีเขียวในปัจจุบัน ในฐานะที่พี่ต่ายเป็นนักแสดงและไอดอลของใครหลายๆคน มีความเห็นหรือวิธีการปฏิบัติต่อโลหเราอย่างไรบ้าง ?ผมชื่นชอบและหลงรักในต้นไม้ โดยเฉพาะการปลูก ซึ่งปัจจุบันได้ตกแต่งบ้านและที่อยู่อาศัย รวมทั้งที่ดินส่วนตัวด้วยพรรณไม้นานาชนิด เพราะความงดงามของพื้นที่สีเขียวคือส่วนสนับสนุนให้บรรยากาศและอากาศโดยรอบเกิดความบริสุทธิ์ สดชื่น ฉะนั้นนอกจากการไม่ทำลายเราควรใส่ในการปลูกฝังตนเองและคนรอบข้างให้รักและหวงแหนทรัพยกรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอยู่เสมอการทำงานและใช้ชีวิตที่ไม่ได้หยุดแค่คำว่า “สำเร็จ” คือ “เป้าหมาย” ของผู้ชายที่เต็มเปี่ยมไปด้วยศรัทธาคนนี้ คือ ต้นกล้าทางความคิดที่ดีที่ทุกคนสามารถนำไปเพาะชำเพื่อขยายกิ่งก้านแรงบันดาลใจในการก้าวเดินต่อไปอย่างมีพลัง ต่าย นัฐฐพนธ์ ลียะวณิช


Comments

No comments yet. Why don’t you start the discussion?

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *