CSTD ประเทศไทย ร่วมกับ กระทรวงวัฒนธรรม จัดงาน “CSTD ครั้งที่ 8” พาร์ท 2เฟ้นหาเยาวชนนักเต้นอีกครั้ง! พร้อมแข่งขันระดับนานาชาติ


สถาบัน The Commonwealth Society of Teachers of Dancing หรือ CSTD ประเทศไทย ร่วมกับ  กระทรวงวัฒนธรรม, สำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย, สถานทูตออสเตรเลียประจำประเทศไทย และ สถาบัน CSTD ประเทศออสเตรเลีย  จัดการแข่งขันศิลปะการเต้นระดับประเทศ  “CSTD Thailand Dance Grand Prix ครั้งที่ 8” Part 2 (ซีเอสทีดี ไทยแลนด์ แดนซ์ กรังด์ ปรีซ์   ครั้งที่ 8 พาร์ท 2)  ชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้ากรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารี โดยปีนี้ สถาบันบางกอกแดนซ์ Zen & Soloist คว้ารางวัลชนะเลิศประเภทสถาบันยอดเยี่ยม จากคะแนนรวมประเภทกลุ่ม ขนาดเล็ก 4-6 คน (Ensembles) และ กลุ่มใหญ่เกิน 30 คน (Troupes) สองวันเต็มกับการแข่งขัน ณ โรงละครอักษรา คิง เพาเวอร์ เพื่อเฟ้นหาตัวแทนเยาวชนไทย เข้าร่วมแข่งขัน ศิลปะการเต้นนานาชาติภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก (CSTD Asia Pacific Dance Competition) ร่วมกับอีกกว่า 10 ประเทศทั่วโลก โดยในปีนี้มีเหล่าเยาวชนนักเต้นทั้งมือสมัครเล่นและระดับมืออาชีพ เข้าร่วมแสดงความสามารถบนเวทีมากถึง 750 คน จาก 9 รอบการแข่งขัน ท่ามกลางสายตาของผู้ชมในโรงละคร ซึ่งปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโควิด-19 อย่างเคร่งครัด

นายชัยพล สุขเอี่ยม ผู้ตรวจราชการกระทรวงวัฒนธรรม

การแข่งขัน “CSTD Thailand Dance Grand Prix ครั้งที่ 8” Part 2  นี้ ได้รับเกียรติจาก นายชัยพล สุขเอี่ยม ผู้ตรวจราชการกระทรวงวัฒนธรรม ร่วมเป็นประธานในพิธี โดยได้เผยถึงงานในครั้งนี้ว่า “ในนามของกระทรวงวัฒนธรรม ได้เล็งเห็นศักยภาพของเยาวชนคนรุ่นใหม่ที่มีหัวใจรักในศิลปะการเต้น มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เป็นส่วนในการสนับสนุนการจัดการแข่งขัน CSTD Thailand Dance Grand Prix ครั้งที่ 8 พาร์ท 2 เพื่อคัดเลือกตัวแทนในประเทศไทยเข้าร่วม Asia Pacific Dance Competition ซึ่งถือเป็นมหกรรมการแข่งขันศิลปะการเต้นที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เวทีสำคัญในการส่งเสริมเยาวชนไทยให้ได้แสดงความสามารถและความคิดสร้างสรรค์ด้านการเต้นให้เป็นที่ประจักษ์ต่อนานาประเทศ และเก็บเกี่ยวประสบการณ์เพื่อพัฒนาตนเองไปสู่การเป็นนักเต้นมืออาชีพ พร้อมสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทย รวมถึงใช้ศิลปะการเต้นเป็นเครื่องมือในการพัฒนาเยาวชนให้เคารพกติกา มีระเบียบวินัย มีน้ำใจนักกีฬา โดยได้รับพระมหากรุณาธิคุณจาก สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้ากรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารี โปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานถ้วยรางวัล สำหรับผู้ชนะเลิศ เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจต่อไป”

ด้าน นางสาววัลลภา ปัจฉิมสวัสดิ์  ผู้แทนสถาบัน “CSTD ประเทศไทย” กล่าวว่า “สถาบัน CSTD ประเทศไทย มีความตั้งใจในการพัฒนาศิลปะด้านการเต้น พร้อมยกระดับมาตรฐานการเต้นในประเทศไทย เพิ่มพูนศักยภาพบุคลากรทางด้านศิลปะการเต้น ไม่ว่าจะเป็นครูผู้สอนเต้น เยาวชนนักเต้นทั้งในระดับมืออาชีพและมือสมัครเล่น โดยจัดการแข่งขัน CSTD Thailand Dance Grand Prix ที่ประเทศไทยเป็นประจำทุกปีต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 8 โดยในปีนี้ได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีจากกระทรวงวัฒนธรรม และซีเอสทีดี ประเทศออสเตรเลีย พร้อมจัดการแข่งขันแบ่งเป็น 2 พาร์ท เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรการความปลอดภัยต่อสถานการณ์โควิด-19 สำหรับพาร์ท 1 Solos & Championships จัดขึ้นเมื่อปลายปี 2564 ที่ผ่านมา เป็นการแข่งขันประเภทเดี่ยว ในรูปแบบออนไลน์ แต่ยังคงความเข้มข้นในการแข่งขันเช่นเดิม โดยผู้

เข้าแข่งขันแต่ละคนได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียม อยู่บนมาตรฐานระดับสากล  ซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จอย่างงดงาม มีผู้เข้าแข่งขันมากถึง 38 สถาบันจากทั่วภูมิภาค และมีเยาวชนเข้าแข่งขันถึง 520 ระบำ มาพร้อมรูปแบบการเต้นที่หลากหลายกว่า 11 สไตล์  นอกจากนี้เรายังได้ส่งตัวแทนเยาวชนเข้าร่วมมหกรรมการแข่งขันการเต้น Asia-Pacific Dance Competition ครั้งที่ 22 กับตัวแทนนักเต้นจาก 16 ประเทศ ซึ่งที่ผ่านมาเยาวชนไทยสามารถคว้ารางวัล อย่าง President’s Cup – Most Outstanding Troupe จากเต้นประเภทกลุ่มดีเด่น ซึ่ง Bangkok Dance Academy (TeamBDA) นำโดย  ครูหลอดไฟ นวินดา ปัจฉิมสวัสดิ์ ผู้ควบคุมการออกแบบ พาทีมเยาวชนไทยรับรางวัลใหญ่นี้ถึง 3 ปีซ้อน นับเป็นความภาคภูมิใจและเป็นการพิสูจน์ให้เห็นถึงศักยภาพด้านเต้นของทีมนักเต้นเยาวชน รวมถึงครูผู้ฝึกสอน และนักออกแบบท่าเต้นไทย ที่ไม่เป็นรองใครในสายตาชาวโลก”

สำหรับการแข่งขัน “CSTD Thailand Dance Grand Prix ครั้งที่ 8” Part 2 นี้ ประกอบไปด้วยรูปแบบการแข่งขัน แบบ 2-3 คน (Duos/Trios), แบบกลุ่มขนาดเล็ก 4-6 คน (Ensembles), กลุ่มใหญ่เกิน 30 คน (Troupes) โดยมีผู้เข้าแข่งขันจากกว่า 38 สถาบันการเต้นทั่วประเทศ รวม 150 ระบำ 35 รอบการแข่งขัน ระยะเวลา 2 วัน ในรูปแบบการเต้นที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น บัลเลต์, ระบำประจำชาติ, คอนเท็มโพรารี่ แดนซ์, แจ๊สแดนซ์, บัลเล่ต์ ลาลีเคิล, แท็ปแดนซ์, ฮิปฮออป, ร้องและเต้น, เต้นเล่าเรื่องราว เป็นต้น ซึ่งผู้ชนะจากเวทีนี้จะได้เป็นตัวแทนเยาวชนไทย เข้าร่วมแข่งขัน ศิลปะการเต้นนานาชาติภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก (CSTD Asia Pacific Dance Competition) พร้อมเผยแพร่วัฒนธรรมไทยผ่านศิลปะด้านการเต้นในระดับสากล รวมถึงนำสิ่งที่ได้เรียนรู้จากการแข่งขัน ไปต่อยอดทางการศึกษาและการทำงานในอนาคต ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นสร้างแรงจูงใจให้เยาวชนไทยรู้สึกภาคภูมิใจในวัฒนธรรมไทยมากขึ้นอีกด้วย ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/cstdthailand 


Comments

No comments yet. Why don’t you start the discussion?

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *