
“สำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง (สทบ.) เราจะสร้างระบบเศรษฐกิจและสังคมฐานรากด้วยความเข้มแข็ง โดยจะนำหลัก BCG โมเดลพร้อมด้วยแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง มาวางรากฐานและขับเคลื่อนให้ สทบ. เป็นศูนย์กลางโครงข่ายการเรียนรู้ เงินทุน สวัสดิภาพ สวัสดิการ และการแก้ไขปัญหา สู่การเป็นภูมิคุ้มกันทางเศรษฐกิจและสังคมโดยรวม” นายวิชิต เครือสุข รองผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ เผยถึงแผนงานในการนำพา สทบ.สู่การเป็น สถาบันการเงินชุมชนที่ทุกคนในชุมชนมีส่วนร่วมในการพัฒนา ขยายผล ต่อยอดสู่การมีคุณภาพชีวิตที่ดีได้อย่างยั่งยืน


นายวิชิต เล่าว่า สำหรับแผนงานในปีนี้ ทาง สทบ. เรามีแผนงานที่สำคัญอย่างการสนับสนุนการจัดตั้งกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง เป็นแหล่งเงินทุนหมุนเวียนในหมู่บ้านและชุมชนเมือง สำหรับการลงทุน เพื่อการพัฒนาอาชีพ สร้างงาน สร้างรายได้ ลดรายจ่าย และบรรเทาเหตุฉุกเฉินกรณีจำเป็นเร่งด่วน โดยวันนี้เรามีกองทุนหมู่บ้านแล้วกว่า 70,000 กองทุน มีสมาชิกที่เข้ามาเป็นเครือข่ายมากถึง 14 ล้านคน ซึ่งในปีนี้เราจะขับเคลื่อนต่อไป
อย่างไรก็ดีเราจะส่งเสริมกระบวนการมีส่วนร่วม และพึ่งพาตนเองของหมู่บ้านและชุมชนเมืองด้วยการเรียนรู้และพัฒนาความคิดริเริ่ม ตลอดจนเสริมสร้างศักยภาพ และส่งเสริมเศรษฐกิจพอเพียงในหมู่บ้านและชุมชนเมืองผ่านการจัดกิจกรรมอบรมในหลักสูตรต่างๆ อาทิ การจับมือกับหน่วยงาน เช่น สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร เพื่อร่วมกันผลักดันผลสำเร็จจากงานวิจัยนำเทคโนโลยีที่เหมาะสมตามบริบทของพื้นที่มาเน้นสนองความต้องการในระดับหมู่บ้าน ไปเผยแพร่ให้กับสมาชิกกองทุนหมู่บ้านได้ใช้ประโยชน์ เพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ๆให้กับชุมชนได้นำองค์ความรู้ไปปรับใช้และพร้อมรับต่อทุกการเปลี่ยนแปลงในยุค New Normal”


นายวิชิต ขยายความถึงแผนงานในขณะนี้ต่อไป ทาง สทบ.เราได้จัดทำโครงการนำร่องตามโมเดลเศรษฐกิจ BCG เพื่อเปิดรับชุมชนต่างๆ เข้าร่วมพัฒนาชุมชนให้กลายเป็นสังคมเศรษฐกิจชุมชนสีเขียว โดยหลักเกณฑ์สำคัญของการเข้าร่วมโครงการนี้มีใจความสำคัญเบื้องต้นดังนี้ เป็นกองทุนที่ได้รับการประเมินอยู่ในระดับดี พร้อมกันนี้ต้องมีการบริหารจัดการที่ดี ที่สำคัญเป็นกองทุนที่จดทะเบียนเป็นนิติบุคคล ซึ่งโครงการนี้จะเข้ามาร่วมกันยกระดับชุมชนใน 4 ด้าน คือ ด้านเกษตรและอาหาร ด้านสุขภาพและการแพทย์ ด้านพลังงาน และด้านการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจสร้างสรรค์

เมื่อสอบถามเพิ่มเติมว่า เราจะได้เห็นอะไรจากโครงการนำร่องตามโมเดลเศรษฐกิจ BCG ในอนาคต นายวิชิต เล่าต่อไปว่า ความท้าทายที่เราจะได้เห็นและพัฒนาอย่างเป็นรูปธรรม มีหลากหลายมิติ เช่น ด้านการท่องเที่ยวนั้นจะมีการส่งเสริมการเที่ยวแบบสร้างสรรค์ เน้นการชมวิถีชุมชนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สำหรับด้านพลังงานเราจะได้เห็นการใช้พลังงานทดแทนในหมู่บ้าน รวมทั้งการการผลิตเชื้อเพลิงจากวัสดุเหลือใช้ ขณะที่ด้านเกษตรเราจะนำเอาการเลี้ยงสัตว์และแมลงที่กล่าวได้ว่าเป็นอาหารแห่งอนาคตมาส่งเสริม


นายวิชิต กล่าวทิ้งท้าย การได้เข้ามารับบทบาทหน้าที่ ในวันนี้ถือว่าเป็นหนึ่งความภูมิใจ ซึ่งตนเองก็พร้อมทำงานและนำเอาประสบการณ์และองค์ความรู้ทั้งหมดมาพัฒนา สทบ.อย่างเต็มสรรพกำลัง โดยปักหมุดพร้อนนำกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองเป็นกลไกในการพัฒนาหมู่บ้านและชุมชนให้เป็นหมู่บ้านและชุมชนพัฒนาตามนโยบาย Thailand 4.0 เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากของประเทศสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน