คอลัม Green Travel : ชีวิตสัมพันธ์ เขตห้ามล่าสัตว์ป่าห้วยทับเสลา-ห้วยระบำ


เขตห้ามล่าสัตว์ป่า ถือเป็นหนึ่งพื้นที่การขับเคลื่อนที่สำคัญในการสร้างความสมดุลให้กับมนุษย์ วิถีชีวิตรวมถึงทรัพยกรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สำหรับเขตห้ามล่าสัตว์ป่าในประเทศไทย จัดตั้งขึ้นภายใต้พระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 ทั้งนี้อยู่ภายใต้ความรับผิดชอบของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยในขณะนี้มีหลากหลายพื้นที่ได้ถูกประกาศให้เป็นเขตห้ามล่าสัตว์ป่า ซึ่งหนึ่งกรณีศึกษาที่สำคัญในการทำงานร่วมกันจากทุกภาคส่วนเพื่อสร้างพื้นที่ต้นแบบการอยู่ร่วมกันแบบชีวิตสัมพันธ์ระหว่างคน ป่าไม้และสัตว์ป่าที่ทาง Green Travel ขอนำอาสามาเล่าเรื่องในตอนนี้ คือ เขตห้ามล่าสัตว์ป่าห้วยทับเสลา-ห้วยระบำ

คุณสังวาลย์ แสงสวัสดิ์
เจ้าพนักงานป่าไม้อาวุโสหัวหน้าเขตข้ามล่าสัตว์ป่าห้วยทับเสลา-ห้วยระบำ

               คุณสังวาลย์ แสงสวัสดิ์  เจ้าพนักงานป่าไม้อาวุโสหัวหน้าเขตข้ามล่าสัตว์ป่าห้วยทับเสลา-ห้วยระบำ เล่าให้ฟังอย่างเป็นกันเองว่า “แต่เดิมพื้นที่ป่าห้วยทับเสลา-ห้วยระบำ เป็นพื้นที่กันชนกับเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้งที่ประชาชนอยู่อาศัยและทำเกษตรกรรม แต่ทว่าต้องเผชิญกับสัตว์ป่าที่เข้ามาทำลายพื้นที่กสิกรรมและในทางกลับกันชาวบ้านก็เข้าไปล่าสัตว์ป่า”

               คุณสังวาลย์ กล่าวต่อไปว่า “ด้วยปัญหาดังกล่าวที่ทวีความรุนแรงและขยายความเสียหายไปในวงกว้าง หลากหลายภาคส่วนนำโดยนายชาดา ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี เขต 2 เจ้าหน้าที่ของกรมอุทยานแห่งชาติ เจ้าหน้าที่ป่าไม้ ชาวบ้านในพื้นที่กันชน ต่างร่วมกันรับฟังความคิดเห็นและการมีส่วนร่วมผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ชุมชนที่เกี่ยวข้องและประชาชน เพื่อประกาศเป็นเขตห้ามล่าสัตว์ป่าห้วยทับเสลา-ห้วยระบำ โดยได้รับการสนับสนุน ข้อมูลและการวางแผนและการจัดการพื้นที่ทางวิชาการ ได้คำปรึกษา จาก คณะอาจารย์จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ คือ ผศ.ดร.นันทชัย พงศ์พัฒนานุรักษ์ และ ผศ.ดร.แสงสรรค์ ภูมิสถาน รวมทั้งอีกหลายภาคส่วนทั้งภาครัฐและภาคประชาสังคม เพื่อร่วมกันสร้างพื้นที่ผ่าแห่งนี้ให้เป็น เขตห้ามล่าสัตว์ป่าห้วยทับเสลา-ห้วยระบำ”

               “ตลอดการทำงาน 3 ปีผ่านมา เราได้ตกผลึกการทำงานร่วมกันและปลุกปั้นพื้นที่ป่าห้วยทับเสลา-ห้วยระบำ เป็นจุดท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สำคัญของจังหวัดอุทัยธานีอีกแห่ง โดยให้ชุมชนซึ่งมีชาวบ้านเป็นแกนกลางในการพานักท่องเที่ยวเข้าชม ซึ่งจะได้เห็นวิถีชีวิตและความเป็นอยู่ที่สอดรับกับธรรมชาติ ขณะเดียวกัน ซึ่งนอกจากสร้างรายได้ให้กับชาวบ้านในชุมชนแล้ว สัตว์ป่าในพื้นที่ก็ไม่ถูกรบกวนสามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติสุข วันนี้พื้นที่เตรียมการฯของเรา มีพื้นที่รวมแล้ว เป็นจำนวน 16,207 ไร่ ซึ่งจะดำเนินการรวมเรื่องนำเสนอคณะกรรมการสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า เพื่อประกาศเป็นเขตห้ามล่าสัตว์ป่า โดยสมบูรณ์ในคราวประชุมครั้งต่อไป” คุณสังวาลย์ กล่าวเสริมด้วยรอยยิ้ม

               เขตห้ามล่าสัตว์ป่าห้วยทับเสลา-ห้วยระบำ ถือเป็นหนึ่งกรณีศึกษาที่ดีในหลากหลายพื้นที่ในการสร้าง ชีวิตสัมพันธ์ที่คน ป่าไม้ สัตว์ป่าอยู่ร่วมกันอย่างมีมิตรสัมพันธ์ โดยเฉพาะการสร้างการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน โดยดึงเอาความโดดเด่นของความสวยงามและความสมบูรณ์ของป่าไม้มาเป็นแม่เหล็กดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเฉยชม ทั้งนี้การทำงานอย่างต่อเนื่องผลลัพธ์ในระยะยาวนอกจากมิติของความยั่งยืน ยังทำให้พื้นที่แห่งนี้เป็นป่าไม้ที่สมดุลอีกแห่งของประเทศไทย เหมือนดั่งเนื้อเพลงชีวิตสัมพันธ์ตอนหนึ่งจากวงคาราบาวที่ขับร้องไว้ว่า “ต้นไม้งามคนงดงาม งามน้ำใจไหลเป็นสายธาร ชุบชีวิตทุกฝ่ายเบิกบาน มีคนมีต้นไม้มีสัตว์ป่า”


Comments

No comments yet. Why don’t you start the discussion?

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *