
“ด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจในการค้นคว้าวิจัยผนวกกับความสนใจในด้านสมุนไพรไทยที่มีสรรพคุณอันโดดเด่นในการรักษาโรคต่างๆ จึงได้จัดตั้ง บริษัท ดีท็อกซ์ (ประเทศไทย) จำกัด โดยปักหมุดให้เป็นองค์กรที่วิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติเพื่อทดแทนการใช้ยาหรือผลิตภัณฑ์เคมีด้วยผลลัพธ์ที่แท้จริง” ดร.ณสพน โพธิ์วิจิตร ผู้ก่อตั้งบริษัท ดีท๊อกซ์ (ประเทศไทย) จำกัด เล่าให้ฟังถึงจุดเริ่มต้นของบริษัทฯ พร้อมขยายความถึงกุญแจสู่ความสำเร็จต่อไปว่า


“เราทำงานวิจัยสมุนไพรและเปลี่ยนสมุนไพรให้เป็นนวัตกรรมที่ดีที่สุด โดยทีมวิจัย ดีท็อกซ์ (ประเทศไทย) ได้พัฒนาและคิดค้นสารสกัดสำคัญจากขมิ้นชัน คือ “สารเคอร์คูมินอยส์” โดยบริษัทฯสามารถทำให้สารเคอร์คูมินอยด์ ละลายน้ำได้มากที่สุดในโลกคือละลายได้ถึง 6.4 มก./มล ซึ่งละลายได้มากกว่าสภาวะปรกติถึง 16,000 เท่า โดยได้รับทุนวิจัยจากสถาบันชั้นนำของประเทศ คือสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ หรือ NIA ทำให้สารสกัดจากขมิ้นชันดังไกลระดับโลก ด้วยการคว้ารางวัลในเวทีการประกวดทางด้านนวัตกรรมระดับนานาชาติ มาได้ถึง 9 เหรียญทอง ใน 6 ประเทศ 3 ทวีปทั่วโลก
ทั้งนี้ผลลัพธ์ที่ดีของสารดังกล่าว สามารถดูดซึมเข้าสู่ร่างกายและนำไปใช้งานได้ดี จึงนำไปสู่การต่อยอดในผลิตภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร Green Curmin และ เครื่องดื่มสมุนไพร Curma Max ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่ช่วยทำให้ห่างไกลจากปัญหากรดไหลย้อน รวมทั้งอาการแสบร้อนกลางอก อาการจุกเสียด แน่นท้อง ทั้งในแบบมีปัญหาเฉียบพลัน และปัญหากรดไหลย้อนเรื้อรังที่สามารถคงความสมดุลในระบบทางเดินอาหารได้ดีอีกด้วย”

ดร.ณสพน เล่าต่อไปว่า “บริษัทของเรามีความชำนาญทางด้านสมุนไพร มีนักวิทยาศาสตร์ชาวญี่ปุ่นซึ่งมีผลงานตีพิมพ์ระดับนานาชาติ มากกว่า 500 เรื่อง มีผลงานลิขสิทธิ์ อีกกว่า 250 เรื่อง เน้นงานวิจัยทางด้านสมุนไพรแล้วนำมาต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ โดยอาศัยการสกัด และแยกสาร สำคัญ ทำให้สามารถควบคุมคุณภาพผลิตภัณฑ์ โดยอาศัยเครื่องมือวิเคราะห์ขั้นสูง เช่น LC/MS/MS , HPLC ( High Pressure Liquid Chromatography) UV-Spectophotometer และ IR มาตรวจวิเคราะห์ยืนยันยันสาร สำคัญที่ใช้ และตรวจเชิงปริมาณเพื่อวิเคราะห์ปริมาณสารสำคัญที่อยู่ในผลิตภัณฑ์ โดยในปัจจุบันเรามีผลิตภัณฑ์อยู่ 4 รูปแบบคือ 1.เครื่องดื่มสมุนไพร 2.อาหารเสริมในรูป แคปซูล และ แกรนูล 3.เครื่องสำอาง และ 4.ยาสมุนไพร


อย่างไรก็ดีนอกจากการมุ่งพัฒนาสินค้าจากนวัตกรรมสุขภาพ เราให้ความสำคัญกับมิติในภาคการผลิตที่สอดรับกับหลักคิดที่เป็นมิตรต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม โดยส่วนของโรงงานนั้นตั้งอยุ่ที่อำเภอหางดงจังหวัดเชียงใหม่ ถือเป็นโรงงานที่ได้มาตรฐานติดตั้งครื่องจักรที่ทันสมัย มีทั้งหมด 3 แห่ง การันตีด้วยมาตรฐานโรงงานอุตสาหกรรมสีเขียว ((Green Industry)) สะท้อนถึงการให้ความสำคัญต่อสังคม สิ่งแวดล้อมและการดำเนินธุรกิจที่มีธรรมมาภิบาล”
“เรามีเป้าหมายที่จะสร้างผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองความต้องการของผู้ที่ต้องการดูแลสุขภาพอย่างถูกต้องในราคายุติธรรมและสร้างวิถีชีวิตที่มีสุขภาพดีของทุกชีวิตมนุษย์สำหรับวันนี้และวันพรุ่งนี้” ดร.ณสพน กล่าวทิ้งท้าย