
กรรมการบริหาร บริษัท บิ๊กสตาร์ จำกัด
กว่าครึ่งศตวรรษที่เรามักคุ้นหูและเป็นแฟนคลับในฐานะผู้บริโภคกับ “แกมโบล” รองเท้าแบรนด์ดังสัญชาติไทย ที่ในวันนี้ได้เติบโตไปสู่โกลบอลแบรนด์ ด้วยการบริหารธุรกิจจาก นายนิติ กิจกำจาย กรรมการบริหาร บริษัท บิ๊กสตาร์ จำกัด ในฐานะเจน 2 ของแบรนด์แกมโบล
นายนิติ เล่าว่า การปรับตัวคือโจทย์สำคัญของการดำเนินธุรกิจ โดยเฉพาะจากสถานการณ์โควิด-19 นั้นคือความท้าทายของแกมโบล โดยเฉพาะภาพรวมผลกระทบยอดขายชะลอตัวลง แต่ในปีนี้เราก็มองหาช่องใหม่ๆ ในการขยายตลาด อาทิ ออนไลน์ รวมทั้งตลาดต่างประเทศโดยเริ่มจากกลุ่มอาเซียน ซึ่งได้รับผลการตอบรับที่ดี นอกจากรุกตลาดอีกหนึ่งกุญแจสำคัญที่ทำให้เราขยับปรับได้คล่องตัวมากขึ้น คือ การทรานส์ฟอร์มองค์กร ผ่านการ collaboration กับพันธมิตรต่าง ๆ ในการเปิดตัวสินค้าคอลเลกชันพิเศษ ควบคู่ไปกับการปรับแบรนด์อิมเมจให้ดูพรีเมียมแมสในราคาจับต้องได้


เจน 2 จากแบรนด์แกมโบล ขยายความต่อไปว่า หัวใจสำคัญของการทรานส์ฟอร์มองค์กรของเรา ไม่ใช่เน้นแต่การขยายไปช่องทางออนไลน์ แต่มุ่งเน้นการปรับโครงสร้างองค์กรเพื่อก้าวสู่ยุคดิจิทัลเต็มรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการวางระบบโปรแกรมใหม่ การทำระบบเชื่อมโยง ฐานข้อมูลต่าง ๆ ตลอดจนการดูระบบหลังบ้าน เพื่อให้ตอบโจทย์ทั้งด้านการซื้อ-ขาย การคิดโปรโมชันต่าง ๆ เพื่อให้สามารถแข่งขันกับแพลตฟอร์มอื่น ๆ

การสานต่อธุรกิจไม่ใช่เรื่องง่ายเหมือนกับการหยิบรองเท้าแตะมาใส่ แต่เราต้องใส่ใจในทุกรายละเอียดที่เพิ่มมากขึ้น ผ่านการนำเอาจุดเด่นของเจน 1 ด้านแนวคิดที่มีสติ ไม่วู่วาม ค่อย ๆ ต่อยอด มาผสานกับเทคโนโลยี ผนวกกับความว่องไวของเจน 2 เพื่อให้การทำงานในบริษัทด้วยการนำข้อได้เปรียบของทั้งสองฝั่งมาใช้ให้เกิดประโยชน์ในการก้าวสู่ยุคใหม่ ฉะนั้นมิติของแนวคิดก็ไม่ต่างจากการผลิตสินค้าที่ต้องใส่ซอฟต์พาวเวอร์เข้าไปเพื่อสร้างรากฐานที่ดี

วันนี้เรากลายเป็นโกลบอลแบรนด์ด้วยการใช้กลยุทธ์การcollaboration กับพันธมิตรแบรนด์ดังระดับโลกในการเปิดตัวสินค้าคอลเลกชันพิเศษ และหนึ่งในนั้น จับมือกับสโมสรลิเวอร์พูลในการซื้อไลเซนส์ของสโมสรมาผลิตสินค้าที่มีตราสัญลักษณ์ของลิเวอร์พูล ภายใต้สัญญา 3 ปี (2564-2566) นำร่องสินค้าแรกในกลุ่มรองเท้าแตะลำลอง โดยได้ผลตอบรับดีและกำลังการผลิตสามารถรองรับได้ มากกว่านั้นยังทำการแท็กทีมกับพาร์ตเนอร์ต่างๆ อีกมากมาย อาทิ คอลเลกชันGAMBOL x PORORO และ คอลเลกชัน GAMBOL x Dragonball Z ซึ่งเราเชื่อมั่นว่าการนำเอาอัตลักษณ์ต่างๆมารังสรรค์บนจุดแข็งของแกมโบลที่ใส่ง่าย สบาย จะตอบโจทย์การใช้ชีวิตของทุกคนได้อย่างลงตัว


“ทั้งนี้ก้าวเดินต่อไปของเราเตรียมขยายโอกาสไปยังตลาดกีฬา อาทิ กรีฑา, เทนนิส, กอล์ฟ ที่อาจทำความร่วมมือกันในอนาคต พร้อมกันนี้ยังให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการภายในโรงงาน เพื่อประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการทำงานให้มากขึ้น เพื่อควบคุมต้นทุน นอกจากนี้บริษัทมีแนวคิดในการนำหุ่นยนต์หรือโรบอตเข้ามาช่วยในการผลิต เพื่อลดต้นทุนด้านแรงงาน โดยเปิดโอกาสให้สถาบันการศึกษาเข้ามาร่วมพัฒนาและสร้างหุ่นยนต์ที่เหมาะสมกับการใช้งาน โดยคาดว่าจะเริ่มต้นใช้ได้จริงในต้นปี 2566 ซึ่งทุกก้าวเดินต่อจากนี้เรามีความภูมิใจในทุกย่างก้าวที่นำพาแกมโบลแบรนด์ไทยแบรนด์นี้ไปสู่โกลบอลแบรนด์ได้อย่างสมศักดิ์ศรี” นายนิติ กล่าวทิ้งท้าย