
“ปีนี้ก้าวเข้าสู่ทศวรรษที่ 4 ของสมาคมนักวิจัยแห่งประเทศไทย ซึ่งก่อตั้งโดยสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ซึ่งมีหมุดหมายที่สำคัญ คือ เป็นศูนย์กลางในการดำเนินการและสนับสนุนกิจกรรมต่างๆ รวมทั้งเป็นจุดเชื่อมโยงเครือข่ายนักวิจัยทั้งในและต่างประเทศไทย และที่สำคัญ คือ เพิ่มขีดความสามารถและพัฒนานักวิจัยไทยให้เป็นที่ยอมรับในระดับภูมิภาคและในระดับสากล โดยวันนี้เรามีสมาชิกสามัญจำนวนกว่า 4,000 คน” ดร.พิพัฒน์ นนทนาธรณ์ นายกสมาคมนักวิจัยแห่งประเทศไทย เล่าถึงจุดเริ่มต้นของสมาคมฯ รวมทั้งพันธิกิจที่สำคัญในการขับเคลื่อนงาน
ดร.พิพัฒน์ ขยายความต่อไปว่า ที่ผ่านมาสมาคมฯ ได้เดินหน้ายกระดับและพัฒนานักวิจัยให้มีความก้าวหน้าในวิชาชีพ โดยวางสมาคมฯให้เป็นเสมือนศูนย์กลางที่รวบรวมนักวิจัยทั่วประเทศเพื่อมาถ่ายทอดองค์ความรู้ แลกเปลี่ยนมุมมอง ตลอดจนต่อยอดสู่การนำชิ้นงานวิจัยไปขยายผลสู่การสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ ที่สร้างประโยชน์ในวงกว้าง เช่น สนับสนุนภาคเศรษฐกิจ ภาคธุรกิจ โดยเฉพาะกลุ่มวิสาหกิจชุมชน อย่างไรก็ตามสมาคมฯยังได้คิดค้นรวมทั้งสร้างทีมนักวิจัยมืออาชีพเพื่อตกผลึกโครงการต่างๆ ที่จะเข้ามาสร้างการเปลี่ยนผ่านที่สำคัญให้กับภาคสังคม และหนึ่งในนั้นคือ จัดงานสัมมนา “แพทย์พบแพทย์ เพื่อกัญชาทางการแพทย์” ในปีที่ผ่านมา
โดยกิจกรรมดังกล่าวได้รับการตอบรับที่ดีจากทุกภาคส่วน อย่างที่ทราบกันวันนี้ คุณสมบัติของกัญชาเมื่อนำมาขยายผลทางการแพทย์สามารถนำมารักษาโรคต่างๆ ได้อย่างหลากหลาย ซึ่งภายในงานมีการถ่ายทอดองค์ความรู้จากผู้เชี่ยวชาญ โดยเฉพาะเรื่องของ กฎหมายกัญชา และกฎหมายในการใช้กัญชาทางการแพทย์ รวมทั้ง การสนับสนุน และผลักดันกัญชาทางการแพทย์ ทั้งนี้งานดังกล่าวในวันนี้ได้ถูกนำมาขยายผลในทางการแพทย์อย่างรูปธรรม และเราก็เชื่อมั่นว่างานดังกล่าวถือเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญ รวมทั้งเป็นต้นแบบที่ดีในการนำเอาชิ้นงานวิจัยจากนักวิจัยไทยมาสร้างเป็นชิ้นงานที่มีคุณค่าต่อสังคม และคำที่มักพูดว่า “งานวิจัยอยู่บนหิ้ง” วันนี้ สมาคมฯพร้อมเป้นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนและสร้างชิ้นงานวิจัยให้สามารถสร้างประโยชน์ได้จริง ผมเชื่อมั่นว่า ทุกคนคืองานวิจัยที่สำคัญ โดยก้าวเดินต่อจากนี้ของสมาคมฯ พร้อมพัฒนาศักยภาพนักวิจัยผ่านโครงการฝึกอบรมที่สอดคล้องกับความต้องการของนักวิจัย จัดประชุมสัมมนางานวิจัยในระดับนานาชาติ รวมถึงการประชุมสัมมนาฯ ที่สอดรับกับสถานการณ์ปัจจุบัน อาทิ ในขณะนี้ทางสมาคมฯ เตรียมจัดกอล์ฟการกุศลเพื่อระดมเงินและเสริมศักยภาพในการพัฒนาสมาคมฯในอนาคต ซึ่งเราเชื่อมั่นว่า ด้วยทิศทางของบริบทโลกที่เติบโตอย่างไม่หยุดนิ่ง สมาคมนักวิจัยแห่งประเทศไทยพร้อมเป็นฟันเฟืองที่สำคัญในการสร้างคุณค่า โดยเฉพาะการสร้าง นวัตกรรม และ นวัตกร ใหม่ๆให้กับสังคมไทยต่อไป