หัวใจหลักในการดูแลและเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารอาคารด้วยการปฏิบัติงานที่ดี Good Practice


ในปัจจุบัน การบริหารและจัดการอาคารสถานที่ ที่เราใช้เป็นสถานที่ทำงานและประกอบกิจกรรมต่างๆของบุคคลและองค์กร ไม่ได้เพียงเพื่อให้อาคารใช้การได้และมีสภาพเหมาะสมเท่านั้น   แต่ยังต้องคำนึงถึงส่วนอื่นที่เกี่ยวข้องด้วย ทั้งความเสี่ยงและความปลอดภัยของผู้ใช้อาคาร รวมถึงค่าใช้จ่ายจำนวนมากในการดูแลรักษาที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกปี  ซึ่งมีผลกระทบต่อภาพลักษณ์และมูลค่าของอาคาร นอกจากนี้การบริหารจัดการอาคารให้มีสภาพแวดล้อมที่ดี และเหมาะสมก็ช่วยส่งเสริมประสิทธิภาพการทำงานของผู้ใช้อาคารให้สามารถสร้างผลผลิตของหน่วยงานได้เพิ่มสูงขึ้น รวมถึงช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่ผู้ใช้อาคารอีกด้วย

คุณชาญ ศิริรัตน์ รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายบริหารทรัพยากรอาคารและระบบวิศวกรรม บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ผู้เชี่ยวชาญด้านการบริหารจัดการอาคารและที่พักอาศัย มากว่า 25 ปี กล่าวว่า”เราเข้าใจถึงความต้องการ ความซับซ้อนของอาคาร และการนำเทคโนโลยีเข้ามาผสมผสานในอาคาร จึงได้นำมาตรฐานการปฏิบัติงานและวิทยาการที่เกี่ยวข้องกับการบริหารและจัดการอาคารสถานที่ การตรวจสอบและดูแลระบบวิศวกรรมอย่างรอบด้านและทุกมิติในทุกอุปกรณ์  ซึ่งเป็นมาตรฐานที่ยอมรับกันอย่างแพร่หลายและเป็นสากล (International Standard Practices) มาใช้ในการบริหารจัดการอาคาร  โดยเฉพาะระบบวิศวกรรมถือว่าเป็นส่วนที่มีความสำคัญมากของอาคาร เพราะเป็นต้นทุนหลักอันส่งผลต่อค่าใช้จ่ายของอาคาร จึงได้มีการนำแนวคิดอายุการใช้งาน (Life cycle) ของอาคาร เครื่องจักรและอุปกรณ์มาพิจารณาและวิเคราะห์เพิ่มเติมผนวกรวมกับแนวทางการปฏิบัติงาน  เพื่อให้เกิดเป็นมาตรฐานที่ดีมีประสิทธิภาพและเป็นการพัฒนาไปสู่มาตรฐานการปฏิบัติงานที่มีความเป็นมืออาชีพเพิ่มมากขึ้น”

พลัสฯ ได้รวบรวมแนวทางการปฏิบัติงาน และมาตรฐานการปฏิบัติงานที่ดีจากต่างประเทศ ในหลายสมาคมและองค์กรชั้นนำด้านงานบริหารจัดการอาคารและการดูแลระบบวิศวกรรม มาใช้ประกอบเป็นแนวทางอ้างอิง เพื่อสร้างเป็นมาตรฐานทางการปฏิบัติงานที่ดีของพลัสฯ ในปัจจุบันมีมาตรฐานระดับองค์กรสากลที่นำมาใช้ ได้แก่ 

  • International Facility Management Association (IFMA)

เป็นสมาคมทางด้านการบริหารจัดการอาคารที่มีชื่อเสียงที่สุด ก่อตั้งในปี 2525 มีสาขาอยู่ในหลายทวีปมีสมาชิกมากกว่า 24,000 องค์กรทั่วโลก ถือเป็นเสาหลักของวงการ สมาคมมุ่งเน้นไปที่การสร้างระบบที่มีประสิทธิภาพในการใช้อาคารผ่านการวิจัยมาตรฐานในการปฏิบัติงาน และมีการออกตีพิมพ์ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในรูปแบบหนังสือและนิตรสาร รวมทั้งยังมีการศึกษาอย่างต่อเนื่อง

  • Building Owners and Managers Association (BOMA

เป็นองค์กรที่รวบรวมสมาชิกด้านงานอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ (Commercial Real Estate) ประกอบด้วยเจ้าของอาคาร ผู้บริหารองค์กรต่างๆ  ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2450 มุ่งเน้นมาตรฐานในการบำรุงรักษากายภาพ สภาพแวดล้อม และอายุการใช้งานของอาคาร รวมถึงการบริหารจัดการพื้นที่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด 

  • American Society of Heating, Refrigerating and AirConditioning Engineers (ASHRAE)

เป็นองค์กรเอกชนระหว่างประเทศที่มีจุดมุ่งหมายในการพัฒนาระบบทำความร้อน ระบบระบายอากาศ ระบบปรับอากาศ และระบบทำความเย็นในอาคารที่ใหญ่และมีชื่อเสียงที่สุด ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2438 และเป็นองค์กรที่มีสมาชิกมากกว่า 54,000 สมาชิกทั่วโลก  

  • Chartered Institution of Building Services Engineers (CIBSE

เป็นสมาคมวิศวกรรมระดับนานาชาติที่ตั้งอยู่ในสหราชอาณาจักร ซึ่งเป็นตัวแทนของวิศวกรในหลายสาขาอาชีพได้แก่ วิศวกรอาคาร, วิศวกรเครื่องกล, วิศวกรไฟฟ้า เป็นต้น ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2519 โดดเด่นด้านมาตรฐานทางวิศวกรรมเครื่องกล ไฟฟ้า และสถาปัตยกรรมอาคาร 

  • Building Engineering Services Association (BESA)

เป็นองค์กรเอกชนที่ตั้งอยู่ในสหราชอาณาจักร ก่อตั้งในปี 2447 ถือเป็นสมาคมที่รวบรวมผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมทั้งภาคการก่อสร้าง และการบริหารอาคาร มุ่งเน้นการสร้างมาตรฐานในการปฏิบัติงานด้านงานวิศวกรรม

Good Practice ของพลัสฯ เป็นการนำแนวทางปฏิบัติและมาตรฐานสากลมาประกอบเพื่อจัดทำมาตรฐานการปฏิบัติงานขึ้นมาใช้เรียกว่า Standard Operation Procedure (SOP) ใช้เป็นคู่มือแนะนำประเด็นสำคัญของระบบงาน ขั้นตอนที่ควรปฏิบัติ และข้อควรปฏิบัติ รวมถึงวิธีการที่ดี (Technique) จากผู้เชี่ยวชาญให้เหมาะสม ตรงกับความต้องการลูกค้ามากที่สุด

การบริหารจัดการอาคารสถานที่และการดูแลระบบวิศวกรรมอาคารนั้น เป็นงานที่ต้องมีการวางแผนงานที่ดี เพราะการปฏิบัติงานทุกครั้งมีความเสี่ยงที่อาจเกิดอันตรายต่อผู้ปฏิบัติงาน  ผู้ใช้อาคาร ส่งผลกระทบต่อการใช้อาคารทั้งในระยะสั้นและระยะยาว รวมถึงค่าใช้จ่ายหรือความเสียหายจำนวนมากที่อาจจะเกิดขึ้นตามมา ดังนั้นการมีคู่มือมาตรฐานการปฏิบัติงาน  การวางแผนและเตรียมการที่ดี  ย่อมสนับสนุนให้การปฏิบัติงานนั้นเป็นไปตามแผนงานที่วางไว้ ช่วยลดอุปสรรคต่อการใช้อาคารและการดำเนินธุรกิจ นอกจากนั้นองค์กรต้องมีแผนค่าใช้จ่ายและงบประมาณบำรุงรักษาและการลงทุนตามกรอบระยะอายุใช้งานอาคารแต่ละช่วง เพื่อที่จะไม่สร้างภาระด้านการเงินที่มีผลกระทบต่อความสามารถในการแข่งขันขององค์กรในอนาคต


Comments

No comments yet. Why don’t you start the discussion?

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *