Exclusive Interview:บีโอไอปักธงยุทธศาสตร์ส่งเสริมการลงทุนเชิงรุก วาง 5 อุตสาหกรรมขับเคลื่อนไทยไปสู่เศรษฐกิจใหม่โดย : นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ)


นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์
เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ)

บีโอไอ ขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ส่งเสริมการลงทุนเชิงรุก 4 ปี (2567 – 2570) ให้ความสำคัญกับ 5 อุตสาหกรรมยุทธศาสตร์ เพื่อพลิกโฉมประเทศไทยสู่ “เศรษฐกิจใหม่”  

นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า 5 กลุ่มอุตสาหกรรมยุทธศาสตร์ที่บีโอไอเดินหน้าขับเคลื่อนเชิงรุกในการส่งเสริมการลงทุน ประกอบไปด้วย 1.อุตสาหกรรมกลุ่ม BCG อาทิ เกษตร อาหาร การแพทย์ และพลังงานสะอาด เพื่อตอบโจทย์กติกาโลกใหม่ที่มุ่งสู่ความยั่งยืน โดยบริษัทชั้นนำระดับโลกหลายรายได้ตั้งความเป็นกลางทางคาร์บอนหรือเข้าเป็นสมาชิกของกลุ่ม RE100 ที่มีเป้าหมายใช้ไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในกิจการ 100%  2.อุตสาหกรรมยานยนต์ เน้นในเรื่องยานยนต์ไฟฟ้า (EV) สนับสนุนการเปลี่ยนผ่านของผู้ผลิตรถยนต์รายเดิมไปสู่ยานยนต์ไฟฟ้า (EV) และส่งเสริมการบริหารจัดการแบตเตอรี่ยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่ใช้แล้ว 3.อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ ตลอดห่วงโซ่อุปทาน และอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ 4.อุตสาหกรรมดิจิทัลและสร้างสรรค์ที่ประเทศไทยมีศักยภาพ และ 5.การส่งเสริมให้ไทยเป็นศูนย์กลางธุรกิจระหว่างประเทศ โดยจะร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดตั้งศูนย์ให้คำปรึกษาและอำนวยความสะดวกในการจัดตั้งสำนักงานใหญ่ระดับภูมิภาค (Regional Headquarters: RHQ) 

พร้อมกันนี้ ยังผลักดัน 5 วาระสำคัญเพื่อขานรับการเปลี่ยนผ่านสู่อุตสาหกรรมยุคใหม่ ได้แก่ 1.การเปลี่ยนผ่านสู่อุตสาหกรรมสีเขียว (Green Transformation) 2.การพัฒนาขีดความสามารถด้านเทคโนโลยี (Technology Development) 3.การพัฒนาและดึงดูดบุคลากรทักษะสูง (Talent Development & Attraction) 4. การส่งเสริมการลงทุนในรูปแบบคลัสเตอร์ (Cluster-based Investment) และ 5. การอำนวยความสะดวกด้านการลงทุน (Ease of Investment) ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อการตัดสินใจลงทุน โดยบอร์ดได้เห็นชอบแนวทางการแก้ไขปัญหาและอำนวยความสะดวกด้านการลงทุนทั้งปรับปรุงกฎระเบียบที่เป็นอุปสรรคของการประกอบธุรกิจ และการเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการของภาครัฐ  ซึ่งบีโอไอจะทะทยอยออกมาตรการส่งเสริมการลงทุนชุดใหม่ เพื่อขับเคลื่อนการลงทุนของประเทศให้บรรลุเป้าหมายการเป็นฐานผลิตอุตสาหกรรมชั้นนำระดับโลกในอนาคตอันใกล้

บีโอไอยังได้ออกมาตรการพิเศษที่ส่งเสริมให้นักลงทุนนำมาใช้ยกระดับอุตสาหกรรม โดยในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา (มกราคม – กันยายน) 2566 มีนักลงทุนยื่นขอรับการส่งเสริมการลงทุน จำนวน 280 โครงการ เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 26  คิดเป็นเงินลงทุนรวม 18,331 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 25 ในจำนวนดังกล่าว ประกอบไปด้วย การลงทุนเพื่อประหยัดพลังงาน, การใช้พลังงานทดแทน หรือการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม จำนวน 223 โครงการ เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 42  คิดเป็นเงินลงทุน 12,327 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 141  

นอกจากนี้ ยังมีการลงทุนเพื่อปรับเปลี่ยนเครื่องจักรเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต การลงทุนเพื่อวิจัยและพัฒนาหรือออกแบบทางวิศวกรรมเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพ, การลงทุนเพื่อประหยัดพลังงาน การใช้พลังงานทดแทน, การลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมกับปรับปรุงประสิทธิภาพด้านการปรับเปลี่ยนเครื่องจักรอัตโนมัติ, การลงทุนใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพ และการลงทุนเพื่อยกระดับไปสู่อุตสาหกรรม 4.0 เป็นต้น

การลงทุนในโครงการเหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่านักลงทุนและหน่วยงานภาครัฐอย่างบีโอไอ ให้ความสำคัญเป็นอย่างมากกับผลกระทบที่เกิดขึ้นจากปัญหาทางด้านสิ่งแวดล้อม  โดยได้นำเรื่องปัญหาสิ่งแวดล้อมและการลงทุนสีเขียว (Green Investment) มาเป็นส่วนสำคัญของการพัฒนาอย่างยั่งยืน ไม่ว่าจะเป็นการพิจารณาอุตสาหกรรมเป้าหมายของไทยที่ต้องสอดคล้องกับเทรนด์ดังกล่าว โดยเฉพาะการพัฒนาอุตสาหกรรม BCG ที่เป็นจุดแข็งของไทย ภาคธุรกิจเองได้เล็งเห็นถึงความสำคัญที่ต้องปรับตัวตามแนวทางดังกล่าว โดยเชื่อมั่นว่ายุทธศาสตร์ส่งเสริมการลงทุนของบีโอไอ จะเป็นก้าวสำคัญในการพลิกโฉมประเทศไทยไปสู่เศรษฐกิจใหม่ อย่างมั่นคงและยั่งยืน 

 ทั้งนี้ ในช่วง 2-3 ปีต่อจากนี้ เป็นช่วงเวลาที่สำคัญ โดยเฉพาะในมิติ “การลงทุน” เนื่องจากมีการปรับโครงสร้างซัพพลายเชนครั้งใหญ่ และเกิดการย้ายฐานการลงทุนมุ่งหน้ามาสู่ภูมิภาคอาเซียนมากขึ้น และนี่ถือเป็นโอกาสทองของประเทศไทย โดยเฉพาะในพื้นที่ EEC ด้วยความโดดเด่นทั้งในด้านจุดแข็งที่อยู่ใจกลางอาเซียน โครงสร้างพื้นฐาน ระบบคมนาคมขนส่ง รวมถึงบุคลากร ที่สำคัญมากไปกว่านั้น ไทยถือเป็นประเทศที่มีซัพพลายเชนของอุตสาหกรรมสำคัญที่แข็งแกร่งที่สุดในภูมิภาค โดยเฉพาะอุตสาหกรรมยานยนต์และอิเล็กทรอนิกส์ โดยทั้งนี้การเสนอยุทธศาสตร์เชิงรุกในครั้งนี้ บีโอไอจะร่วมมือกับหน่วยงานพันธมิตรต่าง ๆ เพื่อสร้างมาตรการใหม่ ๆ และพัฒนาระบบนิเวศ เพื่อยกระดับประเทศไทยสู่การเป็นฐานการผลิตของอุตสาหกรรมชั้นนำระดับโลกในอนาคต


Comments

No comments yet. Why don’t you start the discussion?

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *