บทความโดย นางสาวคาวอล พรีท ประธานบริษัท เฟดเอ็กซ์ เอ็กซ์เพรส ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ตะวันออกกลาง และแอฟริกา
ธุรกิจการผลิตเพื่อการส่งออกมีบทบาทสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนการพัฒนาระบบเศรษฐกิจและสังคมของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมา ภูมิภาคนี้ยังคงแสดงให้เห็นถึงการเติบโตที่โดดเด่นและอย่างยั่งยืนในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แม้จะต้องเผชิญกับภาวะวิกฤตหรือแรงกดดันทางเศรษฐกิจต่าง ๆ จึงขับเคลื่อนให้เกิดความต้องการทางด้านโลจิสติกส์ที่แข็งแกร่งเพื่อรองรับความต้องการของเศรษฐกิจที่หลากหลายมากขึ้นของภูมิภาคนี้
ขาขึ้นของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในห่วงโซ่การผลิตระดับโลก
ระบบเศรษฐกิจของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เติบโตจนมีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 5 ของโลกอย่างรวดเร็ว ด้วยอานิสงส์คลัสเตอร์การผลิตที่มีชื่อเสียงของซัพพลายเชนในประเทศต่าง ๆ อาทิ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในมาเลเซียและเวียดนาม การผลิตชิ้นส่วนยานยนต์และอาหารบรรจุหีบห่อในไทย เครื่องจักรและอุตสาหกรรมปิโตรเคมีในอินโดนีเซีย เครื่องนุ่งห่มและอาหารแปรรูปในฟิลิปปินส์ ไปจนถึงเซมิคอนดักเตอร์ ยาชีวภาพ และชิ้นส่วนประกอบในอุตสาหกรรมการบินและอวกาศในสิงคโปร์
ตลาดเกิดใหม่อย่างเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้กลายเป็นจุดหมายยุทธศาสตร์สำหรับผู้ผลิตที่มองหาความคุ้มค่าในแง่ของราคาแรงงาน ในขณะที่สิงคโปร์ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางของอุตสาหกรรมสำหรับดำเนินงานทางด้านวิจัยและพัฒนาที่มีมูลค่าสูง และให้บริการสนับสนุนการค้า เช่น การเงิน และ โลจิสติกส์
อย่างไรก็ตาม อุตสาหกรรมการผลิตในภูมิภาคนี้ได้พัฒนาอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังมีศักยภาพในการเติบโตไปสู่ตลาดโลก อย่างสิงคโปร์ มาเลเซีย และเวียดนาม เป็นหนึ่งในกลุ่มประเทศที่มีการผลิตขั้นสูงซึ่งเป็นส่วนสําคัญต่อการสร้างเทคโนโลยีและระบบอุตสาหกรรม 4.0
ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีศักยภาพในหลากหลายด้านและมีบทบาทสําคัญในการส่งเสริมการเชื่อมโยงระหว่างกันสําหรับการค้าภายในภูมิภาคเอเชีย และ การค้าระหว่างภูมิภาคเอเชียและยุโรป โดยมีข้อตกลงทางการค้าที่สําคัญต่าง ๆ ที่ช่วยสนับสนุน อาทิ ข้อตกลงการค้าเสรีอาเซียน (AFTA) ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) และความตกลงการค้าเสรีระหว่างสหภาพยุโรปและเวียดนาม (EVFTA) ซึ่งเป็นการยกระดับการเข้าถึงการค้า|ในเอเชียและการค้าข้ามทวีป
ยกระดับคุณภาพการผลิตด้วยการบูรณาการเข้ากับเครือข่ายการขนส่งคุณภาพสูง
เนื่องจากความเร็วในการดำเนินธุรกิจเพิ่มขึ้น การจัดส่งที่รวดเร็วขึ้นจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับผู้ส่งออกในภูมิภาค หนึ่งในผู้นำของธุรกิจการขนส่งอย่าง เฟดเอ็กซ์ อยู่ในระหว่างการพัฒนาการดำเนินงานเพื่อเร่งความเร็วการให้บริการการขนส่งระหว่างประเทศสำหรับตลาดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ไปยังส่วนอื่น ๆ ของโลก อาทิเช่น เฟดเอ็กซ์ เพิ่งประกาศเปิดตัวเที่ยวบินใหม่ในตอนเย็นซึ่งจะออกเดินทางเพื่อขนส่งสินค้าสี่ครั้งต่อสัปดาห์จากโฮจิมินห์ซิตี้เชื่อมต่อไปยังประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคเอเชียและยุโรป ผ่านศูนย์กลางกระจายสินค้าเอเชียแปซิฟิกในกวางโจว ประเทศจีน
ผู้ส่งออกจากภาคใต้ของเวียดนามจะได้รับประโยชน์จากเที่ยวบินใหม่นี้ ด้วยระยะเวลาการขนส่งที่รวดเร็วขึ้น โดยใช้เวลาเพียงหนึ่งวันทำการ สำหรับการขนส่งสินค้าไปยังตลาดสำคัญในเอเชีย และสองวันทำการสำหรับการส่งสินค้าไปยังยุโรป นอกจากนี้ เที่ยวบินใหม่ยังสามารถรองรับความจุได้เพิ่มขึ้นนอกเหนือจากเที่ยวบินที่มีอยู่ในปัจจุบัน ห้าเที่ยวสำหรับการส่งสินค้าไปยังเอเชีย ยุโรป และสหรัฐอเมริกา รวมทั้งหมดเป็นเก้าเที่ยวบินต่อสัปดาห์ที่จะออกเดินทางจากโฮจิมินห์ซิตี้
นอกเหนือจากเที่ยวบินใหม่แล้ว เฟดเอ็กซ์ ยังลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าอีกด้วย ซึ่งรวมถึงการเปิดคลังสินค้าแห่งใหม่ในบาตัม ประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งจะช่วยให้การเคลียร์สินค้าเพื่อส่งออกจากเขตการค้าเสรีได้รวดเร็วขึ้นและยังช่วยลดเวลาในการขนส่ง นอกจากนี้ยังได้เปิดศูนย์ปฏิบัติการแห่งใหม่ที่เมืองคล้าก ในฟิลิปปินส์
เนื่องจากแรงงานมีความเชี่ยวชาญสูงขึ้น รวมถึงความสามารถในการผลิตมีการพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง เครือข่ายการขนส่งของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จึงจำเป็นต้องพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อให้เกิดการเติบโตอย่างยั่งยืน สำหรับภูมิภาคที่ประสบความสําเร็จอยู่แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีผู้ส่งออกเป็นผู้ขับเคลื่อนและพัฒนาห่วงโซ่การผลิต กําลังการผลิตและการเชื่อมต่อระหว่างกันที่เพิ่มขึ้น จะเป็นปัจจัยสําคัญที่ช่วยสนับสนุนอัตราการเติบโต และผลักดันให้ภูมิภาค
เอเชียตะวันออกเฉียงใต้สามารถบรรลุขีดความสามารถสูงสุด