ซานี่ กรุ๊ป (SANY Group) หรือ (“ซานี่”) บริษัทชั้นนำระดับโลกแห่งอุตสาหกรรมการผลิตอุปกรณ์ระดับไฮเอนด์ ตอกย้ำการพัฒนาอย่างยั่งยืนและการเปลี่ยนแปลงการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในอุตสาหกรรมเครื่องจักรกลหนัก ก่อนการประชุมสมัชชาประเทศภาคีอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศครั้งที่ 28 ณ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (COP28 UAE) ซึ่งจะมีขึ้น ณ นครดูไบเป็นเวลา 13 วัน ระหว่างวันที่ 30 พฤศจิกายน ถึง 12 ธันวาคม ภายใต้แนวคิด “การลงมือทำ” (Actionism) เพื่อเรียกร้องให้คนทั่วไปลุกขึ้นมาเผชิญความท้าทายจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
สำหรับการประชุม COP28 จะมุ่งเน้นการเปลี่ยนแปลงกระบวนทัศน์สำคัญ 4 ด้านด้วยกันคือ เร่งการเปลี่ยนผ่านจากการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล ทำความตกลงเกี่ยวกับเปลี่ยนแปลงทางการเงินเพื่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Finance) ให้ความสำคัญกับบทบาทของมนุษย์และธรรมชาติในการดำเนินการด้านสภาพภูมิอากาศ และสร้างความมั่นใจว่า ในการประชุมครั้งนี้จะมอบโอกาสที่เปิดกว้างให้ทุกคนเข้ามามีส่วนร่วม ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิง คนพื้นเมือง ชุมชนท้องถิ่น เยาวชน รวมถึงประเทศต่าง ๆ เป็นต้น
ซานี่มีการดำเนินการที่เป็นรูปธรรมเพื่อส่งเสริมการเปลี่ยนแปลงการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ผ่านการนำโซลูชันที่ยั่งยืนเข้ามาสู่อุตสาหกรรมเหมืองแร่ การก่อสร้าง พลังงานลม และอุตสาหกรรมอื่น ๆ เพื่อเป็นการตอบสนองต่อวาระการประชุมทั้งในเชิงรุกและเชิงบวก
มาตรการสีเขียวเพื่อสร้างอนาคตที่ยั่งยืน
ซานี่กำลังดำเนินการเชิงรุกเพื่อเพิ่มการใช้พลังงานสีเขียว (พลังงานหมุนเวียน เช่น พลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลม) ในกระบวนการผลิต เพื่อลดการพึ่งพาแหล่งพลังงานเดิม ๆ ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน และสนับสนุนการดำเนินการเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ บริษัทฯ ริเริ่มโครงการต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเร่งการวิจัยและพัฒนาและการใช้โซลูชั่นพลังงานลม ไฮโดรเจน และการจัดการพลังงานไฟฟ้า จนประสบผลสำเร็จที่มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง
ซานี่ รีนิวเอเบิล เอเนอร์จี (SANY Renewable Energy) ในเครือซานี่ ได้ลงทุนก่อสร้างทุ่งกังหันลมเพื่อเพิ่มสัดส่วนพลังงานลมในโครงสร้างพลังงาน ผ่านการปรับปรุงอัจฉริยะในด้านการผลิตและการสร้างสรรค์กิจกรรมการฝึกอบรมอัจฉริยะ ส่งผลให้ในภาพรวมนั้น ซานี่ รีนิวเอเบิล เอเนอร์จี สามารถลดการใช้พลังงานต่อหน่วยและลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนลงได้ 15% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงก่อนการปรับปรุง
ในปี 2565 ซานี่ได้เพิ่มการเชื่อมต่อมาตรวัดพลังงานอีกกว่า 3,000 จุด นอกจากนี้ยังได้สร้างนิคมสถานีผสมผสานอัจฉริยะแห่งแรกของจีน (mixing station park) และลงทุนอีก 3.22 ล้านหยวนในการก่อสร้างแผงเซลล์แสงอาทิตย์ที่จะสามารถผลิตไฟฟ้าได้ปีละ 900,000 กิโลวัตต์ชั่วโมง ซึ่งนิคมสถานีผสมผสานอัจฉริยะแห่งนี้จะลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนได้ 887 ต้น ลดฝุ่นได้ 242 ตัน ลดซัลไฟด์ได้ 26.7 ตัน และลดไนตริกออกไซด์ได้ 13.4 ตัน เพื่อความสำเร็จในการพัฒนาร่วมกันระหว่างการผลิตอัจฉริยะและการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
บริษัทในเครือซานี่ได้ติดตั้งอุปกรณ์สำหรับผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ไปแล้วทั้งสิ้น 11 แห่ง โดยมีการใช้พลังงานสะอาด 16.013 ล้านกิโลวัตต์ชั่วโมง
นอกจากนี้ ซานี่ยังมีส่วนร่วมในเชิงรุกในการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีเซลล์เชื้อเพลิงไฮโดรเจน เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพของแบตเตอรี่ ลดต้นทุน และเพิ่มขีดความสามารถในการผลิตและการจัดเก็บ พร้อมกับเพิ่มการใช้พลังงานไฮโดรเจนไปในเวลาเดียวกัน
มาตรการรับมือสภาพอากาศที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม ช่วยแก้ปัญหาคอขวดในอุตสาหกรรม
ซานี่จะจัดตั้งซัพพลายเชนสีเขียว โดยจะใช้วัสดุหมุนเวียนและเทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อลดการสิ้นเปลืองทรัพยากร และพัฒนาความยั่งยืนของห่วงโซ่อุปทาน
ซานี่ยังคงปรับปรุงกลไกระยะยาวอย่างต่อเนื่องเพื่อป้องกันและควบคุมมลพิษ เสริมสร้างความแข็งแกร่งในการควบคุมการปล่อยของเสีย ไม่ว่าจะเป็นน้ำ ก๊าซ และสารอันตรายอื่น ๆ เป็นต้น รวมถึงดำเนินการทางธุรกิจและการดำเนินงานที่อาจสร้างความเสียหายต่อสภาพแวดล้อมทางนิเวศวิทยาอย่างระมัดระวัง ในปี 2565 ซานี่ กรุ๊ป ควบคุมการปล่อยน้ำเสียและก๊าซได้ตามอัตรามาตรฐาน 100% และมีอัตราการปฏิบัติตามข้อกำหนดว่าด้วยการกำจัดของเสียอันตรายได้ 100% เช่นกัน
นอกจากนี้ ซานี่ กรุ๊ป ยังผลักดันการใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเพื่อควบคุมมลพิษให้อยู่ในระดับต่ำสุด เพื่อให้การลดคาร์บอนตลอดวงจรชีวิตผลิตภัณฑ์นั้นครอบคลุมถึงการเลือกใช้วัสดุด้วย ในปี 2565 ซานี่ กรุ๊ปมีความหนาแน่นของการปล่อยสารอินทรีย์ระเหยง่ายในบรรยากาศ (VOC) ในระดับ 0.0011 ตันต่อรายได้ 1 ล้าน ลดลงจากปีฐาน 39.71%
ขณะเดียวกัน การปรับปรุงเทคนิคและกระบวนการผลิตอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับการส่งเสริมเทคโนโลยีอนุรักษ์พลังงานและความก้าวหน้าของการพัฒนาเทคโนโลยีคาร์บอนต่ำ ไม่เพียงแต่จะมีบทบาทสำคัญในการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตเท่านั้น แต่ยังช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (carbon footprint) โดยมุ่งมั่นที่จะบรรลุเป้าหมาย “คาร์บอนคู่ขนาน” (Dual Carbon)
เรียกร้องให้ประชาชนมีส่วนร่วม
ซานี่จัดโครงการฝึกอบรมและดำเนินโครงการต่าง ๆ ให้กับพนักงานโดยให้ความสำคัญกับการปกป้องสิ่งแวดล้อม ขณะเดียวกันก็เพิ่มการมีส่วนร่วมของชุมชนในด้านต่าง ๆ เกี่ยวกับการสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อม นวัตกรรมคาร์บอนต่ำ นวัตกรรมที่เป็นมิตรกับชุมชน และนวัตกรรมการศึกษา โดยในปี 2565 พนักงานของบริษัทฯ ดำเนินกิจกรรมจิตอาสาครบ 687.4 ชั่วโมง ขณะที่ซานี่ให้การสนับสนุนโครงการเพื่อสวัสดิภาพสาธารณะ 15 โครงการ คิดเป็นจำนวนเงินปีละ 9.75 ล้านหยวน
ขณะเดียวกัน ซานี่ คอนสตรักชัน อินดัสทรี (SANY Construction Industry) คือผู้นำการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสีเขียวในการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานในเมือง เพื่อเร่งการพัฒนาเมืองอย่างยั่งยืนและการสร้างเมืองอัจฉริยะ ตลอดจนระบบการคมนาคมขนส่งที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และสถาปัตยกรรมที่มีการอนุรักษ์พลังงาน เพื่อลดการใช้พลังงาน ยกระดับคุณภาพสิ่งแวดล้อมในเมือง และความเป็นอยู่ของผู้คน
ในด้านความหลากหลายทางชีวภาพและการพัฒนาที่ยั่งยืนนั้น ซานี่ให้ความสำคัญในการอนุรักษ์ดิน มหาสมุทร พืชผล และสัตว์ เพื่อสร้างอนาคตที่ดีกว่าและสนับสนุนเศรษฐกิจหมุนเวียนเพื่อลดการสิ้นเปลืองทรัพยากร
ส่วนในเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลกที่ทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นนั้น ซานี่ ในฐานะผู้นำแห่งอุตสาหกรรมสีเขียว มีความมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมการพัฒนาอย่างยั่งยืนและมีส่วนร่วมในเชิงรุกในความพยายามทั่วโลกที่จะรับมือการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ผ่านการริเริ่มโครงการครอบคลุมด้านต่าง ๆ ในวงกว้าง เช่น ซัพพลายเชนสีเขียว พลังงานสีเขียว และการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับซานี่ กรุ๊ป สามารถติดตามได้ทาง www.sanyglobal.com หรือติดตามซานี่ กรุ๊ป ทางเฟซบุ๊กหรือยูทูบ