ROYAL ALLOY – MOTOR EXPO 2023


ROYAL ALLOY สกู๊ตเตอร์แนวเรโทร สัญชาติอังกฤษ จากความคลาสสิกในยุค 1960-1970 เป็นแรงบันดาลใจให้ Royal Alloy นำความคลาสสิกในรูปลักษณ์นั้นกลับมาพัฒนาผสมผสานเทคโนโลยีและฟังก์ชั่นต่างๆที่ทันสมัย เพื่อคืนความสุนทรี ความคลาสสิก ย้อนยุค ให้กลับมาโลดแล่นบนถนนแห่งสีสันอีกครั้ง  โดยโมเดลที่จำหน่ายในปัจจุบันอย่าง Grand prix “GP” และ Tigara Grand “TG” มีให้เลือกตั้งแต่ 150 ซีซี ,175ซีซี และ 300 ซีซี  ด้วยมาตรฐานการผลิต  การประกอบ ควบคุมคุณภาพทุกขั้นตอน โดย  Royal Alloy มีโรงงานในประเทศไทย ตั้งอยู่ที่นิคมอมตะซิตี้  จังหวัดชลบุรี  มากกว่า 7 ปีแล้ว  โดยเรามีตัวแทนจำหน่ายและจุดบริการหลังการขายครอบคลุมทั่วประเทศ    อีกทั้ง Royal Alloy  ได้ให้ความสำคัญในการออกแบบและพัฒนาตัวสินค้าอย่างต่อเนื่อง โดยงาน Thailand International Motor Expo 2023 ในครั้งนี้ บริษัทฯมีความภาคภูมิใจที่จะนำเสนอรถตัวใหม่ ที่ได้เปิดตัวไปก่อนหน้านี้แล้ว นำมาให้ยลโฉมกันแบบชัดๆอีกครั้ง

 เท่าที่ทุกท่านทราบดีว่า Royal Alloy เราเป็น Scooter Classic ซึ่งตัวรถจะมีดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ มีตัวบอดี้เป็นเหล็ก รถจะมีน้ำหนักค่อนข้างมาก และด้วยความเป็น Classic ทำให้รถเรามีความสูง เมื่อเทียบกับรถในตลาดทั่วไป นั้นจึงเป็นที่มาในการออกแบบของรถรุ่น GP150F(MT)

 จุดเด่นของรถรุ่นนี้ คือการดีไซน์ที่แตกต่าง โดดเด่น สะดุดตา ด้วยฝาข้างแบบใส มองเห็นตัวเครื่องยนต์ภายในได้อย่างชัดเจน  อีกทั้งเราได้ออกแบบให้สามารถเลือกคัสตอมสีสันได้ โดยทุกท่านสามารถเลือกเปลี่ยนฝาข้างทึบที่เป็นสีเดียวกับตัวรถ  และสามารถถอดเปลี่ยนด้วยตัวเองได้

ด้วยฝาข้างแบบใส ทำให้น้ำหนักของตัวรถลดลงเหลือเพียงแค่ 122 kg. เท่านั้น จากเดิมที่มีน้ำหนักถึง

130 kg.  โช๊คคู่หน้า จะเป็นดับเบิ้ลอาร์มลิงค์สไตล์คลาสสิค สามารถปรับสปริงพรีโหลดได้  โช๊คหลังเป็นแบบโช๊คคู่  ในเรื่องของยาง เราใช้ Pirelli Angel Scooter ซึ่งถือว่าเป็นยางที่ดี และเหมาะกับรถ Scooter เป็นอย่างมาก ทั้งโช๊คที่ออกแบบมาให้ลงตัวกับตัวรถ และข้อดีของยางที่เราได้ให้ไป จะทำให้ตัวรถมีความสูงลดลงเหลือเพียง 750 mm. จากเดิมที่มีความสูง 790 mm.

“จากการออกแบบที่ทำให้น้ำหนัก และความสูงของตัวรถลดลง ส่งผลให้รถ GP150F(MT) สามารถเข้าถึงกลุ่มผู้หญิง และคนตัวเล็กได้มากยิ่งขึ้น” นั้นเอง

เครื่องยนต์ของรถรุ่นนี้ มาด้วยขุมพลังในพิกัด

149.8 cc. 1 สูบ พร้อมกับหัวฉีด DelPhi EFI  และฝาสูบที่ใช้ระบบ 4 วาวล์ ทำให้อัตราเร่งที่ตอบสนองต่อคันเร่งมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้รถรุ่นนี้ ยังมีฟังก์ชั่นที่เป็นจุดเด่นอีกอย่าง คือหน้าจอ TFT แบบทัชสกรีน ที่มีค่าแสดงผลต่างๆครบครัน อีกทั้งยังสามารถมองหน้าจอได้อย่างชัดเจน ในส่วนของดิสเบรก หน้า-หลัง เป็น ABS  เพิ่มความมั่นใจมากขึ้นในการขับขี่ และสุดท้ายคือการออกแบบท่อไอเสียให้มีความเป็นเอกลักษณ์ โดยเลือกใช้วัสดุ

สแตนเลส 304  เพื่อความคงทน สวยงาม และลงตัวเข้ากัน

สำหรับราคาของรถรุ่น GP150F(MT)  ราคาขายอยู่ที่ 119,900 บาท มาพร้อมกับสีที่วางจำหน่าย ณ ตอนนี้ก่อน 3 สี นั่นก็คือ สีฟ้า-ฝาใส (Crytal Sapphire) , สีครีม-ฝาเขียว (Crytal Jade) และสีครีม-ฝาใส (Crytal Ivory) ส่วนในอนาคตจะมีสีเพิ่มอีกหรือไม่นั้น จะขอแจ้งให้ทราบในคราวต่อไป

นอกเหนือจากรถรุ่นใหม่ที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว เรายังได้นำรถ Side car เกรดพรีเมี่ยม มาโชว์เพื่อสร้างสีสันพร้อมกับจำหน่ายให้กับผู้ที่สนใจด้วย    โดยรถ Side car    นี้มีขนาด 300 cc.  4 วาวล์  ระบายความร้อนด้วยหม้อน้ำ

พ่วงข้างทำจาก Fiberglass เรือนไมล์เป็นแบบดิจิตอล มาด้วยราคาขายทั้งตัวรถและพ่วงข้าง รวมกันอยู่ที่ 225,000 บาท

ปิดท้ายด้วย HANWAY BOB400 ที่นำมาโชว์ด้วยกันทั้ง 3 รุ่น ได้แก่ รุ่น Classic , รุ่น Sport และรุ่น Heritage โดยรุ่น Heritage มาพร้อมกับระบบขับเคลื่อนแบบสายพาน รุ่น Classic และSport  ระบบขับเคลื่อนแบบโซ่   ซึ่งรุ่นนี้เครื่องยนต์อยู่ที่พิกัด 400 cc. 2 สูบ 4 วาวล์   ระบายความร้อนด้วยหม้อน้ำ มีให้เลือกทั้งหมด 3 สี  สามารถชมตัวจริงที่บูธ G06  Challenger 3 ได้ตั้งแต่วันที่ 29 พฤศจิกายน – 11 ธันวาคม  2566

รถทุกรุ่นที่ได้นำมาโชว์ในงาน Thailand International Motor Expo2023 นี้ เป็นความภาคภูมิใจของทีมงานทุกคน

“และนี่คือก้าวสำคัญสำหรับ Royal Alloy และจะยังคงก้าวต่อไปแบบไม่หยุดยั้ง”


Comments

No comments yet. Why don’t you start the discussion?

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *