แบรนด์ตั้งเป้าเป็นผู้นำ ‘Green Tea Boom’ ระดับโลก ด้วยรสชาติและคุณประโยชน์ด้านสุขภาพที่ดึงดูดแฟน ๆ รุ่นใหม่
บริษัท อิโต เอ็น (ประเทศไทย) จำกัด (ITO EN, Ltd) ผู้ผลิตแบรนด์เครื่องดื่มชาเขียวสูตรไม่มีน้ำตาลที่ได้รับความนิยมอันดับ 1 ของญี่ปุ่น “โออิ โอฉะ (Oi Ocha)” มีความยินดีที่จะประกาศว่า บริษัทได้ลงนามในข้อตกลงระดับโลกกับโชเฮ โอตานิ (Shohei Ohtani) ซูเปอร์สตาร์จากทีมเบสบอล ลอสแอนเจลิส ดอดเจอส์ (Los Angeles Dodgers Ohtani) มีผลตั้งแต่วันที่ 30 เมษายน 2567
‘โออิ โอฉะ’ เป็นหนึ่งในเครื่องดื่มชาเขียวสูตรไม่มีน้ำตาลที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในประเทศไทย บริษัทดำเนินธุรกิจในประเทศไทยมาอย่างยาวนานกว่า 10 ปี ได้แนะนำ ‘โออิ โอฉะ’ ให้กับกลุ่มคนไทยรุ่นใหม่ที่รักชาเขียวได้ลิ้มลอง ยอดการผลิตและการบริโภคมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นในตลาดประเทศไทย เนื่องจากผู้คนยังคงให้ความสนใจในเครื่องดื่มเพื่อความสดชื่นและมีประโยชน์ต่อสุขภาพอย่างต่อเนื่อง
ไดสุเกะ ฮอนโจ (Daisuke Honjo) ประธานบริษัทและเจ้าหน้าที่บริหารกล่าวว่า “เราตั้งเป้าที่จะเป็นบริษัทชาระดับโลกและเพิ่มมูลค่าของชาญี่ปุ่นทั่วโลก ด้วยการดำเนินโครงการต่าง ๆ ทั้งในญี่ปุ่นและต่างประเทศร่วมกับ โชเฮ โอตานิ ไอคอนด้านกีฬาระดับโลกและนักเบสบอลที่มีฝีมือทั้งเกมรับและเกมรุกเพียงหนึ่งเดียว”
ความเชื่อมโยงระหว่างโอตานิและ ‘โออิ โอฉะ’ แสดงให้เห็นว่า ไม่ว่านักกีฬามืออาชีพหรือประชาชนทั่วไปก็สามารถได้รับประโยชน์ด้านสุขภาพจากการดื่มชาเขียวเช่นกัน ผลดีของชาเขียวต่อการนอนหลับได้รับการเผยแพร่ในวารสารระดับนานาชาติ ทำให้ชาเขียวได้รับความนิยมไปทั่วโลก ปัจจัยสำคัญคือ ส่วนประกอบที่เป็นเอกลักษณ์ของชาเขียวมีประสิทธิภาพในการผ่อนคลายความเครียด เพิ่มสมาธิและประสิทธิภาพการทำงาน รวมถึงคุณภาพการนอนหลับ
นอกจากจะเป็นเครื่องดื่มที่โชเฮ โอตานิ ชื่นชอบแล้ว ‘โออิ โอฉะ’ ยังได้รับความนิยมจากคนรุ่นใหม่รวมถึงคนดังอย่าง จัสติน บีเบอร์ (Justine Bieber) เฮลีย์ บีเบอร์ (Hailey Bieber) และนีล แพทริค แฮร์ริส (Neil Patrick Harris) ด้วยรสชาติที่สดชื่นและเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ
ยอดนักเบสบอล โอตานิ ดื่ม โออิ โอฉะ เป็นประจำอยู่แล้ว และเมื่อแบรนด์เริ่มมีชื่อเสียง ผู้คนก็เริ่มจำได้ว่า โอตานิ มักจะดื่มชาเขียวยี่ห้อนี้อยู่เสมอกับเพื่อนร่วมทีมเก่าสังกัด ลอสแอนเจลิส แองเจิลส์ (Los Angeles Angels)
โชเฮ โอตานิ กล่าวว่า “ผมมีความยินดีที่ได้เป็นพันธมิตรระดับโลกกับชาเชียว โออิ โอฉะ ของอิโต เอ็น ผมเป็นแฟนตัวยงของ โออิ โอฉะ ตั้งแต่ตอนที่ผมอยู่ที่ญี่ปุ่น และโออิ โอฉะยังคงเป็นเครื่องดื่มคู่ใจของผมแม้ว่าผมจะย้ายมาอยู่อเมริกาแล้ว ผมดีใจมากที่อิโต เอ็นรับทราบว่าการที่ผมชอบและดื่มชาเขียวของแบรนด์บ่อย ๆ นำไปสู่โอกาสในการทำงานร่วมกันในครั้งนี้ ในฐานะแฟนตัวยงของแบรนด์นี้ ผมยินดีที่จะใช้โอกาสในการแบ่งปันเสน่ห์ของเครื่องดื่มชาเขียวนี้กับแฟนคลับทั่วโลก”
โอตานิ ครองแชมป์ผู้เล่นทรงคุณค่าในอเมริกันลีก (American League: AL) ที่กำลังจะเริ่มฤดูกาลใหม่ที่ใกล้จะถึงในปี 2567 กับสังกัดทีม Los Angeles Dodgers หลังจากทำผลงานตีโฮมรันได้เป็นครั้งที่ 176 ตั้งแต่เป็นนักเบสบอลมา โดยแซงหน้า ฮิเดกิ มัทสุอิ (Hideki Matsui) ในฐานะผู้เล่นที่เกิดในญี่ปุ่นที่ทำโฮมรันได้มากที่สุดในประวัติศาสตร์เมเจอร์ลีกเบสบอล (Major League Baseball: MLB)
อิโต เอ็น ได้ประกาศความร่วมมือครั้งใหม่นี้กับโอตานิ โดยทำเป็นจดหมายให้กำลังใจตีพิมพ์บนหนังสือพิมพ์ภาษาญี่ปุ่น อาทิ Nikkei, Asahi, Yomiuri, Mainichi, Sankei และ Sports Hochi ในประเทศญี่ปุ่นและประเทศอื่น ๆ ที่ผู้คนนิยมรับชมกีฬาเบสบอล อาทิ New York Times, Los Angeles Times, Washington Post และ Honolulu Star-Advertiser ในสหรัฐอเมริกา, Financial Times ในยุโรป, Chosun Ilbo ในเกาหลี และ Herald Sun ในออสเตรเลีย เป็นต้น รวมเป็นหนังสือพิมพ์ระดับนานาชาติกว่า 60 ฉบับที่ประกาศข่าวนี้
■แบรนด์เครื่องดื่มชาเขียวอันดับ 1 ของโลก “โออิ โอฉะ”
โออิ โอฉะ แบรนด์เครื่องดื่มชาเขียวสูตรไม่มีน้ำตาล อันดับ 1 ของโลก ฉลองครบรอบ 35 ปี ในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567 และมียอดขายมากกว่า 43 พันล้านขวด นับตั้งแต่เริ่มเปิดตัวในปี พ.ศ. 2532
ชาซึมซับวิถีชีวิตของเราในฐานะเครื่องมือเชื่อมโยงผู้คนเข้าด้วยกัน และเป็นเครื่องดื่มที่ทุกคนต้องมีติดบ้าน หรือเรียกได้ว่าเป็นเครื่องดื่มหลักในชีวิตประจำวัน นับตั้งแต่ผลิตภัณฑ์รุ่นก่อนคือ เครื่องดื่มชาเขียวกระป๋อง “Sencha in a can” แบรนด์แรกของโลกที่เปิดตัวในปี 2528 แบรนด์ “โออิ โอฉะ” เติบโตอย่างต่อเนื่องโดยอาศัยความสามารถทางเทคโนโลยีเพื่อพัฒนาสินค้าไปตามเทรนด์การดื่มที่เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา และอาศัยความสามารถในการจัดหาวัตถุดิบคุณภาพสูงอย่างใบชา ผ่านโครงการริเริ่มต่าง ๆ เช่น ธุรกิจการเพาะปลูกในพื้นที่ผลิตชา “โออิ โอฉะ” ได้รับการตอบรับอย่างดีในต่างประเทศ จำนวนลูกค้าและแฟนคลับที่ชื่นชอบการดื่มก็เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในอเมริกาเหนือ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และภูมิภาคอื่น ๆ ณ เดือนมีนาคม 2567 มีการวางจำหน่ายในกว่า 40 ประเทศทั่วโลก