โดย : คุณธานินทร์ ทิมทอง ประธานเจ้าหน้าที่สายความยั่งยืนทางสังคม
บริษัท เลิร์น คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ LEARN Corporation

บริษัท เลิร์น คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ LEARN Corporation
“กว่า 18 ปี จากประสบการณ์การทำงานด้านการศึกษา หมุดหมายสำคัญของเรา คือ อยากช่วยเหลือผู้คน ซึ่ง ‘การศึกษาถือเป็นสิ่งที่ช่วยทำให้คนหลายคนได้รับการพัฒนาและมีชีวิตที่ดีขึ้น’ โดยเราเชื่อว่า รากเหง้าของการศึกษาไม่ใช่แค่อยู่ภายในห้องเรียนเท่านั้น ตรงนี้ทำให้เรามองไปถึงภาพการศึกษาแบบ Lifelong Learning เพื่อให้สอดรับกับการเปลี่ยนแปลงอย่างฉับไวด้วยความท้าทายในยุคนี้” นายธานินทร์ ทิมทอง ประธานเจ้าหน้าที่สายความยั่งยืนทางสังคม บริษัท เลิร์น คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เผยถึงจุดเริ่มต้นของ LEARN Corporation

นายธานินทร์ กล่าวว่า “ถ้าเราพูดถึงเรื่องการศึกษา เราจะนึกเรื่องห้องสี่เหลี่ยมกับกระดานดำ แต่ตอนนี้เด็กสามารถนั่งเรียนที่ไหนก็ได้ มีแท็บเล็ตตัวเดียว แต่สามารถเข้าถึงคอนเทนต์ที่เป็นระดับประเทศหรือระดับโลกได้เลย การเรียนรู้เรียกว่าแทบจะอยู่ทุกที่ รวมทั้งผู้ใหญ่เอง โดยขณะนี้ไม่ใช่แค่การเรียนจบปริญญาตรีหรือปริญญาโท แต่ ‘การเรียนรู้อยู่ตลอดเวลา’ ถือเป็นกุญแจสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งวันนี้ เทคโนโลยีและนวัตกรรมเป็นจุดตั้งต้นที่สำคัญในการศึกษา จึงเป็นที่มาของการจัดตั้ง LEARN Corporation ซึ่งวันนี้ถือเป็นองค์กร EdTech หรือเทคโนโลยีด้านการศึกษาที่เริ่มต้นเมื่อสิบกว่าปีก่อน จากกวดวิชา OnDemand โรงเรียนกวดวิชาแบบออนไลน์ ก่อนจะต่อยอดจุดแข็งและองค์ความรู้ทางด้านการสื่อสารการศึกษาผ่านทางเครื่องมือนวัตกรรมจนเติบโตขึ้นเป็นลำดับมาจนถึงปัจจุบัน”
เราวางกรอบแนวคิดที่ว่า ‘ทำอย่างไรให้เด็กเรียนแล้วสนุก เข้าใจ แล้วสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้’ โดยสามองค์ประกอบที่ต้องทำงานไปด้วยกันเพื่อให้การเรียนการสอนผ่านทางออนไลน์เป็นไปได้อย่างดี ประกอบไปด้วย คน ความรู้ และเทคโนโลยี ทั้งหมดเชื่อมโยงสู่การสร้างสังคมการเรียนรู้ตลอดเวลาได้อย่างไม่สิ้นสุด เริ่มต้นจากครูผู้สอนที่มีความเชี่ยวชาญ ความรู้ความเข้าใจในบทเรียน และที่สำคัญคือสามารถสื่อสารและถ่ายทอดผ่านการออกแบบการเรียนรู้ที่ทำให้เข้าถึงนักเรียนได้ง่ายขึ้น แล้วเทคโนโลยีจะเป็นเครื่องมือที่นำพาและจัดการข้อมูลเหล่านี้ให้ไปถึงนักเรียนได้อย่างง่ายดายขึ้น นายธานินทร์ ขยายความพร้อมบอกเล่าต่อไปว่า

“เราใช้ EdTech มาช่วยผลักดันให้เราก้าวไปเป็นเบอร์หนึ่งในตลาดการศึกษา ที่ผ่านมาเราได้พัฒนาการศึกษาอย่างไร้รอยต่อสำหรับทุกวัย ผ่านการสร้างแพลตฟอร์ม Learn Anywhere แอปพลิเคชันเรียนออนไลน์ที่รวบรวมคอนเทนต์จากธุรกิจกลุ่ม Out-School ไว้ในที่เดียว พร้อมกันนี้ยังได้บริหารงานและจัดทำหลักสูตรการเรียนการสอนในโรงเรียน ภายใต้ธุรกิจกลุ่ม Chain Shcool โดยได้ริเริ่มที่โรงเรียนเลิร์น สาธิตพัฒนา ฝ่ายมัธยม หรือ LSP School (Learn Satit Pattana School) ที่มากไปกว่านั้นสำหรับผู้เรียนวัยทำงานเรายังมีธุรกิจกลุ่ม Professional&Skills รองรับ โดยมุ่งพัฒนาทักษะใหม่แห่งอนาคตให้กับวัยทำงาน หรือผู้ที่ต้องการพัฒนาทักษะตัวเองให้สอดรับกับความต้องการของตลาดแรงงานโลก เช่น คอร์สออนไลน์ OKRs: The Complete Guide, UX Fundamentals, Customer Journey Mapping, Digital Business Starter Pack เป็นต้น”
นายธานินทร์ กล่าวต่อไปว่า “นอกจากพัฒนาการศึกษาไทยแล้ว การพัฒนาสังคมก็เป็นเรื่องเดียวกันด้วย” อย่างไรก็ตามที่ผ่านมา LEARN ให้ความสำคัญต่อการส่งเสริมและสนับสนุนภาคการศึกษาให้กับภาคสังคม หรือ (Social Enterprise) ผ่านการจัดตั้ง Learn Education แพลตฟอร์มสื่อและเนื้อหาสนับสนุนการสอนในโรงเรียน ที่ใช้เทคโนโลยี Online Blended Learning Solution หรือการเรียนการสอนออนไลน์แบบผสมผสานระหว่างนักเรียนและครูในห้องกับครูในจอ ที่ช่วยเพิ่มโอกาสทางการศึกษาแล้วมากกว่า 500 โรงเรียนทั่วประเทศ พร้อมกันนี้ยังได้จัดทำโครงการ Learn CSR School ที่เข้าถึง 200 โรงเรียนกับนักเรียนกว่าหนึ่งแสนคน โครงการทุนเปลี่ยนชีวิต จำนวนมากกว่า 5,000 ทุน และทุนฯ สาธิตพัฒนา 120 ทุน
“เทคโนโลยีการเรียนรู้แบบไร้ข้อจำกัดในปัจจุบันช่วยลดความเหลื่อมล้ำ เราเชื่อว่าการทำงานทั้งจาก Bottom-up สนับสนุนและส่งเสริมการเรียนรู้ให้มากเท่าที่เราทำได้ และ Top-down จะเปลี่ยนโฉมหรือฐานรากที่สำคัญของภาคการศึกษาไทยให้เกิดความเท่าทัน และเปิดกว้างการศึกษาให้เข้าถึงทุกคน ทุกช่วงเวลา และทุกช่วงวัยอย่างเท่าเทียม ฉะนั้นไม่ว่าโลกจะเปลี่ยนไปอย่างไร ถ้าเรามีความสุขที่จะไปเรียนรู้ ไม่ใช่เป็นภาระที่จะไปขวนขวาย เราก็จะสนุกด้วย และเป็นเครื่องมือในการเข้าถึงและสร้างประโยชน์ได้อย่างยั่งยืน” นายธานินทร์ กล่าวทิ้งท้ายด้วยรอยยิ้ม