โดย : ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.)

ผู้ว่าการ การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท)
”ซีเกมส์ครั้งที่ 33 — ก้าวใหม่ของวงการกีฬาไทยสู่ความยั่งยืน – ในปี 2568 ประเทศไทยได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 และอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 13 ซึ่งไม่เพียงเป็นมหกรรมกีฬาระดับภูมิภาคที่คนไทยเฝ้ารอ แต่ยังเป็นโอกาสครั้งสำคัญในการนำเสนอวิสัยทัศน์ใหม่ของประเทศไทยต่อโลก ด้วยแนวคิด “Green SEA Games” และ “Sustainable Paralympics” ที่ให้ความสำคัญกับความยั่งยืนในทุกมิติ โดยมุ่งสู่การเป็นการแข่งขันกีฬาในรูปแบบ Carbon Neutral หรือการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ การแข่งขันในครั้งนี้จึงไม่ได้มีเป้าหมายเพียงเพื่อชัยชนะของนักกีฬาไทย แต่ยังสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของประเทศในการเป็นผู้นำด้านกีฬาและสิ่งแวดล้อมในระดับภูมิภาค” ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เผยแนวคิดการจัด SEA Games

Green SEA Games: ความพร้อมที่มากกว่าแค่สนามแข่งขัน
ดร.ก้องศักด ยอดมณี เล่าถึงความพร้อมของการเป็นเจ้าภาพซีเกมส์ครั้งนี้ว่า ประเทศไทยได้เตรียมสถานที่ในแข่งขันรวมถึงที่พักเพื่อรองรับนักกีฬารวมถึงทีมงานและผู้ติดตามพร้อมเป็นเจ้าบ้านที่ดีที่จะต้องดูแลด้านความสะดวกสบายรวมถึงความปลอดภัยในระว่างการแข่งขัน สำหรับอาเซียนพาราเกมส์ ภายใต้งบประมาณ 2,055 ล้านบาท โดยมีการบูรณาการกับภาครัฐ ภาคเอกชน และหน่วยงานในท้องถิ่นเพื่อให้การแข่งขันครั้งนี้เกิดขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ
“แต่สิ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน คือการที่ กกท. ได้นำแนวคิด “Green SEA Games” มาใช้จริงอย่างเป็นรูปธรรม ไม่ว่าจะเป็นการส่งเสริมการใช้ขนส่งสาธารณะและระบบรถไฟฟ้า การเดินทางร่วม (Carpooling) การใช้พลังงานสะอาด เช่น พลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลม ไปจนถึงการใช้วัสดุที่สามารถย่อยสลาย รีไซเคิล หรือรียูสได้ในการจัดงาน เรามุ่งเป้าหมายไปที่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ เพื่อสะท้อนว่า กีฬาไม่จำเป็นต้องทำลายสิ่งแวดล้อม แต่สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างยั่งยืน” ดร.ก้องศักด กล่าว

ความยั่งยืนกับกีฬา: เป้าหมายระยะยาวของ กกท.
”สำหรับ กกท. การจัดซีเกมส์ในครั้งนี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงเชิงระบบ ที่จะขยายสู่ทุกกิจกรรมด้านกีฬาในอนาคต โดยมีเป้าหมายหลัก คือ การผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางของกีฬาและการท่องเที่ยวเชิงยั่งยืนในภูมิภาคอาเซียน ในแง่ของนโยบาย กกท. ตั้งเป้าให้การแข่งขันกีฬาในอนาคตต้องมีแนวทางจัดการด้านสิ่งแวดล้อมควบคู่ไปด้วย เช่น การลดการใช้ทรัพยากร การจัดการขยะ การใช้พลังงานสะอาด รวมถึงการวัดผลและรายงานด้านสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง แนวทาง Green & Clean Sport คือสิ่งที่เราต้องยึดถือ ไม่ใช่แค่เพื่อการแข่งขันในวันนี้ แต่เพื่ออนาคตของวงการกีฬาไทย” ผู้ว่าการ กกท. กล่าวเสริม
ส่งเสริมตัวตนนักกีฬาไทย: มากกว่าคำว่า ‘ฮีโร่’ หลังจบการแข่งขัน
อีกหนึ่งประเด็นที่ ดร.ก้องศักด ให้ความสำคัญอย่างยิ่ง คือเรื่อง “การสร้างตัวตนให้แก่นักกีฬา” โดยมองว่าไม่ควรปล่อยให้นักกีฬาเป็นที่รู้จักเฉพาะช่วงที่คว้าเหรียญหรือมีผลงานโดดเด่นเท่านั้น
“เราต้องเริ่มตั้งแต่ต้นทาง สร้างความเข้าใจในตัวนักกีฬาทุกประเภท ให้มีพื้นที่ มีการรับรู้ และมีภาพลักษณ์ที่มั่นคง ไม่ใช่เฉพาะตอนที่พวกเขาดังหรือประสบความสำเร็จแล้วถึงจะได้รับการยอมรับ” ดร.ก้องศักด เน้นย้ำ
กกท. จึงได้วางแผนพัฒนานักกีฬาอย่างรอบด้าน ไม่ใช่แค่ในสนาม แต่รวมถึงเรื่องการศึกษา การสื่อสารบุคลิกภาพ และการสร้างบทบาทให้เป็น Influencer ทางสังคม เพื่อให้นักกีฬาไทยเป็น “ต้นแบบ” ที่น่าภาคภูมิใจในทุกช่วงเวลาของอาชีพ
รวม 12 กีฬาเด่น และนักกีฬาน่าจับตาแห่งปี 2025!
ซีเกมส์ครั้งนี้ 12 ชนิดกีฬาน่าสนใจที่แฟนกีฬาชาวไทยห้ามพลาด! ไม่ว่าจะเป็นกีฬายอดฮิตอย่างวอลเลย์บอล ฟุตบอล แบดมินตัน และมวยไทย ที่สร้างชื่อเสียงระดับนานาชาติ ไปจนถึงกีฬาน่าลุ้นอย่างยิงปืน ปันจักสีลัต ระบำใต้น้ำ อีสปอร์ต และยูยิตสู (Ju-Jitsu) ที่กำลังมาแรง! โดยในปีนี้ มีนักกีฬายูยิตสูดาวรุ่งที่น่าจับตามอง ได้แก่ “มุก” ลลิตา ยืนนาน และ “พลับ” วราวุฒิ แสงศรีเรือง สองนักสู้ทีมชาติไทยที่กำลังเตรียมความพร้อมเต็มที่ เพื่อคว้าเหรียญให้กับประเทศไทย มาร่วมส่งแรงใจเชียร์ทัพนักกีฬาไทยให้คว้าชัย สร้างความภูมิใจให้คนไทยทั้งชาติไปด้วยกันแบบแมตช์ต่อแมตช์
การจัดการแข่งขันระดับโลก: ต่อยอด Green SEA Games สู่เวทีสากล
นอกจากการเป็นเจ้าภาพซีเกมส์ครั้งที่ 33 และอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 13 แล้ว ในเดือนสิงหาคม 2568 ประเทศไทยยังจะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน วอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์โลก (FIVB Volleyball Women’s World Championship 2025) ซึ่งนับเป็นอีกหนึ่งเวทีสำคัญในการแสดงศักยภาพของไทยในการจัดการแข่งขันกีฬาในระดับนานาชาติ ภายใต้แนวทางที่มุ่งเน้นการถึงการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมความยั่งยืนเพื่อเพิมมูลค่าทางเศรษฐกิจเช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นการใช้พลังงานสะอาด การจัดการขยะอย่างเป็นระบบ และการเชื่อมโยงกับการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ซึ่งแสดงให้เห็นว่าแนวคิด Green & Clean Sport นั้นไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในระดับภูมิภาค แต่กำลังถูกยกระดับสู่เวทีโลกอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งในการจัดการแข่งขันในครั้งนี้เริ่มขี้นในวันที่ 22 สิงหาคมถึงวันที่7 กันยายน 2568 รวม 32 ทีมและแบ่งการแข่งขันออกเป็น 4 สนาม 4 ภูมิภาคเพื่อเป็นการกระจายรายได้สู่ชุมชนและการเข้าถึงกีฬาระดับโลกของประชาชนได้แก่ กรุงเทพมหานคร,นครราชสีมา,เชียงใหม่และภูเก็ตซึ่งการจัดการแข่งขันในครั้งนี้เพื่อเป็นการเพิ่มสีสรรและความสนุกสนานทางสมาคมจึงมีแนวความคิดในการสร้าง Mascot สัญลักษณ์ของการแข่งขัน Angel นางฟ้าวอลเลย์บอลไทยแลนด์ สีสรรสดใสน่ารักคอยทักทายแฟนๆในทุกสนาม
Green SEA Games—มากกว่าการแข่งขัน คือพลังแห่งการเปลี่ยนแปลง
ซีเกมส์ครั้งที่ 33 และอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 13 คือหมุดหมายสำคัญที่สะท้อนถึงความสามารถของประเทศไทยในการจัดการแข่งขันระดับนานาชาติอย่างมีคุณภาพ โปร่งใส และยุติธรรม ภายใต้แนวคิด Green & Clean Sport แต่สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าชัยชนะ คือการวางรากฐานให้กีฬาไทยเป็น “พลังของความยั่งยืน” ทั้งในด้านสิ่งแวดล้อม นักกีฬา และภาพลักษณ์ประเทศ
“เราต้องการให้โลกเห็นว่า กีฬาไทยไม่ได้แข่งขันเพื่อวันนี้เท่านั้น แต่เรากำลังสร้างระบบที่ยั่งยืนสำหรับคนรุ่นต่อไป” ดร.ก้องศักด กล่าวทิ้งท้าย








