โดย : นางจงกลนี แก้วสด รองผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย
“องค์การสวนสัตว์ฯ มีภารกิจหน้าที่ดำเนินการบริหารจัดการทางด้านทรัพยากรธรรมชาติที่หลากหลายของประเทศให้อยู่คู่กับสังคมไทย โดยการสงวน อนุรักษ์ ฟื้นฟู และจัดการใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืน รวมทั้งให้ประชาชนได้มีการดำรงชีวิตอยู่อย่างมีความสุขภายใต้คุณภาพสิ่งแวดล้อมที่ดี” นางจงกลนี แก้วสด รองผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย เผยถึง บทบาทสำคัญขององค์การสวนสัตว์ฯ สู่การบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพครอบคลุมในทุกห่วงโซ่อาหารอย่างสมดุล
แสวงหา มุ่งมั่นตั้งใจ กุญแจสู่ความสำเร็จ
นางจงกลนี เผยว่าเส้นทางอาชีพกว่า 3 ทศวรรษที่ผ่านมา มีความเชื่อมโยงกับทาง องค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย ตั้งแต่เมื่อครั้งเป็นอาสาสมัครในช่วงเป็นนักศึกษา จากนั้นเมื่อจบการศึกษาในด้านวิทยาศาสตร์ก็ยังมีความเชื่อมโยงและให้ความสนใจในงานเกี่ยวกับการสร้างแหล่งเรียนรู้ในมิติการอนุรักษ์สัตว์ จนกระทั่งสอบเข้ามาปฏิบัติงานที่ ส่วนวิชาการองค์การสวนสัตว์ฯ แม้ในระยะแรกจะมาในส่วนงานวิชาการและ เลขานุการฯ แต่ด้วยยุคสมัยที่เปลี่ยนไปผนวกกับแนวคิดในการทำงานที่มุ่งในการแสวงหาความรู้ใหม่ๆ จึงทำให้ตนได้ไปปฏิบัติงานใน งานเทคโนโลยีดิจิทัลเนื่องจากตนเชื่อมั่นว่า การเพิ่มพูนความรู้ให้กับตัวเองอย่างรอบด้านจะเป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาองค์กรแห่งนี้ต่อไป
“จากงาน เทคโนโลยีดิจิทัลที่เริ่มนำเอาเทคโนโลยีมาปรับใช้ในการทำงานเพื่อลดขั้นตอนการทำงานภายในให้เกิดประสิทธิภาพ การขยายผลการทำงานไปยังสวนสัตว์ต่างๆ ผ่านโครงการที่สำคัญ ล้วนเป็นการปูฐานรากที่สำคัญในการต่อฐาน เติมยอดให้วันนี้ องค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทยฯ กลาย “เป็นแหล่งเรียนรู้ อนุรักษ์สัตว์ และท่องเที่ยวที่มีมาตรฐาน ทันสมัย ชั้นนำในอาเซียน” โดยบุคลากรทุกคนมี DNA เดียวกันว่า เราจะปรับโฉมจากสวนสัตว์เดิมให้เปลี่ยนผ่านสู่การเป็น “สวนสัตว์ยุคใหม่” นางจงกลนี
จากวันแรกที่เข้ามาปฏิบัติงานจวบจนวันนี้กว่า 3 ทศวรรษในสายงานบริหาร หลักคิดที่สำคัญ คือ การแสวงหาสิ่งใหม่ให้กับตัวเองอย่างเปิดรับ และมุ่งมั่นตั้งใจไม่ว่าจะทำอะไรหรือบทบาทอะไร หากเรามีพื้นฐานที่ตั้งใจเราจะสามารถบรรลุเป้าหมายและสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ดีให้กับตนและองค์กรได้อย่างร่วมกัน
ก้าวสำคัญสู่การเป็น “องค์กรด้านการอนุรักษ์สัตว์ป่าชั้นนำในระดับโลก”
ในมิติการขยายความเข้มแข็งด้านการอนุรักษ์วิจัยสัตว์ป่าด้วยองค์ความรู้และเครือข่ายวิชาการ และ สร้างและพัฒนาฐานทรัพยากร และองค์ความรู้ที่จำเป็นต่องานด้านการเพาะขยายพันธุ์ อนุรักษ์ และวิจัยสัตว์ องค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทยฯ ได้มีการลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือในการอนุรักษ์สัตว์ป่าและการจัดการสวนสัตว์ร่วมกับสมาคมสวนสัตว์หน่วยงานภาครัฐและเอกชน เพื่อแลกเปลี่ยนสายพันธุ์สัตว์ป่าหายาก การจัดฝึกอบรมให้แก่บุคลากร การพัฒนาโครงการอนุรักษ์และเพาะขยายพันธุ์ทั้งในและนอกถิ่นอาศัย การถ่ายทอดองค์ความรู้และเทคนิคต่างๆ รวมถึงความร่วมมืออื่นๆที่เกี่ยวข้องระหว่างหน่วยงาน
องค์การสวนสัตว์ฯ เชื่อมั่นว่า การดำเนินงานดังกล่าว ถือเป็นการยกระดับการดำเนินงานด้านการจัดการสวนสัตว์และการอนุรักษ์สัตว์ป่าของทั้งสองประเทศ โดยหวังว่าจะนำไปสู่ความสำเร็จในการจัดการสวนสัตว์และการอนุรักษ์สัตว์ป่า
มุ่งสู่การเป็นการองค์กรด้านการอนุรักษ์สัตว์ป่าชั้นนำในระดับโลกร่วมกัน
ทั้งนี้ในมิติศักยภาพการบริหารจัดการงานด้านการจัดการประชากรสัตว์ สวัสดิภาพสัตว์ อนุรักษ์และวิจัย และสื่อสารองค์ความรู้ ด้วยเครือข่ายทางวิชาการและนวัตกรรมที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพ ที่ผ่านมาทางองค์การสวนสัตว์ฯ ได้ทำงานเชิงบูรณาการร่วมกับทุกภาคส่วน อาทิ สวทช.ผ่านการจัดตั้งธนาคารทรัพยากรชีวภาพแห่งชาติ (National Biobank of Thailand: NBT) เพื่ออนุรักษ์ทรัพยากรชีวภาพอันมีค่าของประเทศแบบระยะยาว เพื่อเป็นฐานที่สำคัญของการพัฒนาโมเดลเศรษฐกิจ BCG เพื่อเตรียมพร้อมรับมือสภาวะวิกฤตและการเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมที่นำไปสู่การสูญเสียทรัพยากรชีวภาพอย่างถาวรในธรรมชาติ
“สวนสัตว์ที่ทันสมัย” ภายใต้แนวคิด (Green Zoo)
สัตว์ป่าในสวนสัตว์ เป็นทรัพยากรธรรมชาติที่มีคุณค่าอย่างยิ่งต่อการอนุรักษ์ องค์การสวนสัตว์ฯ จึงมุ่งเน้นสร้างความเข้มแข็งด้านบริหารจัดการ อนุรักษ์ วิจัยสัตว์ป่า ทั้งในถิ่น และนอกถิ่นอาศัย โดยพัฒนาการอนุรักษ์วิจัย เพื่อสร้างองค์ความรู้ด้านสัตว์ป่าและสิ่งแวดล้อม รวมทั้งสร้างนวัตกรรมที่สนับสนุนการดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพ ควบคู่ไปกับการเผยแพร่ผลงานวิจัย ให้ความรู้และสร้างความตระหนักในการอนุรักษ์แก่สาธารณชน รวมทั้งเปิดโอกาสให้ชุมชนท้องถิ่นได้เข้ามามีส่วนร่วมในการอนุรักษ์สัตว์ป่าเพื่อให้เกิดความยั่งยืนต่อไป ทั้งนี้เพื่อเตรียมรับมือกับวิกฤตการณ์ต่างๆ ที่คุกคามการสูญพันธุ์ของสัตว์ป่าในปัจจุบัน ความเชี่ยวชาญของนักวิทยาศาสตร์ และองค์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ ทั้งด้านสุขภาพ พันธุศาสตร์ โภชนศาสตร์ สัตวศาสตร์ และวิทยาการสืบพันธุ์ จึงมีความสำคัญและต้องบูรณาการร่วมกันฟื้นฟูประชากรสัตว์ป่าและสนับสนุนให้การอนุรักษ์สัตว์ป่าในธรรมชาติให้มีความยั่งยืน (viable population) ต่อไป
นางจงกลนี เผยต่อไปว่า ทั้งนี้ในด้านสร้างการเติบโตด้านการเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมสู่สังคม ทางองค์การสวนสัตว์ฯ ได้วางกรอบแนวคิดสู่การสร้างกรีนซู (Green Zoo) มุ่งเน้นการสร้าง “สวนสัตว์ที่ทันสมัย” ไม่นำขยะพลาสติกและใช้พลังงานหมุนเวียน ต้นไม้ที่ปลูกใหม่ทุกต้นเคลมคาร์บอนเครดิตได้ โดยจะเริ่มที่สวนสัตว์แห่งใหม่ บริเวณคลองหก จ.ปทุมธานี โดยจะมีพื้นที่สีเขียวหรือ สวนสาธารณะขนาด 30 ไร่ รวมถึงให้ความสำคัญกับการจัดทำระบบป้องกันน้ำท่วม ซึ่งได้วางแผนมีทะเลสาบที่จะผันน้ำออกเพื่อควบคุมน้ำเข้าสวนสัตว์ และไม่ให้กระทบกับชุมชน เราเชื่อมั่นว่าแนวคิดการสร้าง Green Zoo จะเป็นจุดเริ่มที่ดีในการสร้างสภาวะแวดล้อมที่ดีต่อทุกระบบนิเวศในสวนสัต์ทุกแห่งต่อจากนี้
“การ มุ่งสู่การเป็นการองค์กรด้านการอนุรักษ์สัตว์ป่าชั้นนำในระดับโลก หมุดหมายนี้คือเป้าหมายสำคัญของพวกเรา เรามั่นใจว่าจะขับเคลื่อนและสามารถเดินหน้าบริหารจัดการเพื่อสร้างความสมดุลให้กับทุกห่วงโซ่อาหาร ยกระดับสู่การเป็น “สวนสัตว์ที่ทันสมัย” ครอบคลุมในทุกมิติของการเรียนรู้ในสังคมไทย” สุดท้ายนี้ที่องค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทยประสบความสำเร็จ (Key Success) คือเรามีบุคลากรที่มีคุณภาพ นางจงกลนี กล่าวทิ้งท้าย