มาจับฉลากกันเถอะ


ชวนมาจับฉลาก ที่มีความหมายตามราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.๒๕๕๔ ที่ว่า (๑)  [ฉะหฺลาก] น. สิ่งเช่นติ้ว ตั๋ว หรือแผ่นกระดาษเล็กๆ ซึ่งทำเป็นเครื่องหมายกำหนดไว้เนื่องในการเสี่ยงโชคเสี่ยงทายเป็นต้น หรือ (๒) น. ป้ายบอกชื่อยา ใช้ปิดขวดยารักษาโรค เรียกว่า ฉลากยา หรือ (๓) น. สลาก ก็ว่า หรือ (๔)  (กฎ) รูป รอยประดิษฐ์ เครื่องหมาย หรือข้อความใด ๆ ที่แสดงไว้ที่ภาชนะหรือหีบห่อบรรจุสินค้า เช่น ฉลากยา ฉลากเครื่องสำอาง. ดังนั้นคำว่าฉลากที่ติดอยู่บนผลิตภัณฑ์ใช้คำนี้จะเหมาะสมกว่าคำว่าสลาก ดังความหมายที่ ๔ นั่นเอง

ก่อนจะกลายเป็นคอลัมน์ภาษาไทยไป อยากชวนท่านผู้อ่านมาทำความเข้าใจเรื่องฉลากสิ่งแวดล้อม (Eco Labeling) กันในเล่มนี้ครับ ฉลากสิ่งแวดล้อม เกิดขึ้นจากเครือข่ายฉลากสิ่งแวดล้อมโลก (Global Eco-labelling Network) หรือ GEN เมื่อปี ค.ศ.1994 มีเป้าหมายเพื่อปกป้องสิ่งแวดล้อมผ่านการรับรองฉลากสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ (Eco-label) ให้แก่ผลิตภัณฑ์และบริการที่มีความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และมีการกำหนดวันฉลากสิ่งแวดล้อมโลก (World Eco-label Day) ไว้ในวันพฤหัสบดีที่ 2 ของเดือนตุลาคม

ฉลากสิ่งแวดล้อมแบ่งออกเป็น 4 ประเภท คือ ประเภทที่ 1 เป็นฉลากแสดงความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมที่รับรองโดยองค์กรอิสระ เป็นฉลากที่รับรองสินค้าที่มีองค์ประกอบกระบวนการผลิตการใช้ตลอดจนการกำจัด ที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยกว่าเมื่อนำมาเปรียบเทียบกับผลิตภัณฑ์อื่นๆ ในประเภทเดียวกัน เช่น ฉลากเขียว ประเภทที่ 2 เป็นฉลากที่ผู้ผลิต ผู้จัดจำหน่าย หรือผู้ส่งออก เป็นผู้บ่งบอกความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมของผลิตภัณฑ์ของตนเอง โดยไม่มีองค์กรกลางในการดูแล แต่ต้องมีหลักฐานในการอ้างอิงเมื่อถูกตรวจสอบ และประเภทที่ 3 เป็นฉลากที่แสดงผลกระทบของผลิตภัณฑ์ต่อสิ่งแวดล้อม โดยมีหน่วยงานอิสระหรือองค์กรกลางในการตรวจสอบความถูกต้อง และประเภทที่ 4 ฉลากประเภทอื่นๆ พัฒนาขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เฉพาะในการแสดงเจตนาเพื่อสื่อหรือจูงใจให้ผู้บริโภค เห็นความสำคัญของการเลือกใช้สินค้าหรือบริการนั้นๆเช่น ฉลากประหยัดไฟเบอร์5 ฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นท์

ฉลากที่ผู้บริโภคคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี ได้แก่ ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 เป็นฉลากที่ออกมาเพื่อแจ้งข้อมูลของระดับการใช้ไฟฟ้า และข้อมูลเบื้องต้นต่างๆ ของเครื่องใช้ไฟฟ้า รวมถึง ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้านั้นๆ จุดประสงค์เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถเลือกซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าได้ง่ายขึ้น รับทราบถึงข้อมูลเบื้องต้น และค่าไฟฟ้าที่จะต้องจ่ายต่อปี สำหรับฉลากเบอร์ 5 ใหม่ที่เพิ่งประกาศใช้มีการเพิ่มดาว จากเดิม 1 – 3 ดาว ให้เป็น 1 – 5 ดาวแทน เพื่อให้ข้อมูลของประสิทธิภาพเครื่องใช้ไฟฟ้าได้ละเอียดยิ่งขึ้น และที่สำคัญมีการแสดงข้อมูลของการลดการปล่อย Co2 ระบุเอาไว้ด้วย ซึ่งค่าที่แสดงนั้นจะเป็นค่าตลอดช่วงการใช้งาน รวมถึงมีการเพิ่มสัญลักษณ์ผลิตภัณฑ์เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Circular Economy)

ส่วนอีกตัวที่กำลังมาแรง และสายรักษ์โลกอย่างพวกเราควรรู้จักไว้คือ EPD (Environmental Product Declaration)  คือ เอกสารที่ระบุผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมของผลิตภัณฑ์แต่ละชนิดที่พัฒนาให้อยู่ภายใต้มาตรฐาน ISO (ISO 14025, ISO 14040, ISO 14044, ISO 21930) และ EN(EN 15804, EN 15942) โดยคำนวณจากการวิเคราะห์วงจรชีวิต (Life Cycle Assessment: LCA) EPD จึงเปรียบเหมือนฉลากที่บอกส่วนผสมของผลิตภัณฑ์ในมุมของผลกระทบที่มีต่อสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้นตลอดอายุการใช้งานของผลิตภัณฑ์นั้นๆ ตั้งแต่ การได้มาของวัตถุดิบ กระบวนการผลิต การขนส่งสินค้า การใช้งาน และการจัดการซาก EPD จัดเป็น ฉลากสิ่งแวดล้อมประเภทที่ 3 ที่ต้องมีหน่วยงานมาตรวจสอบความถูกต้องนั่นเอง

ฉลากสิ่งแวดล้อมไม่ได้มีไว้เพียงแค่โชว์เท่ๆ หรือเป็นจุดเด่นของสินค้าเท่านั้น แต่กำลังถูกใช้เป็นเครื่องมือในการทำการค้าโดยเฉพาะกับประเทศที่มีการพัฒนาด้านสิ่งแวดล้อม นับเป็นเรื่องจำเป็นที่ผู้ประกอบการทั้งขนาดใหญ่และขนาดเล็กต้องมีความรู้และเริ่มปรับตัวครับ


Comments

No comments yet. Why don’t you start the discussion?

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *