“เราเริ่มจาก ร้านขายยาคูหาเดียว หน้าโรงพยาบาลศิริราชเมื่อประมาณ 38 ปีก่อน ภายใต้ชื่อ “เภสัชสัมพันธ์” จากคุณพ่อและคุณแม่ ภก. ไชยเสน และ ภญ. อรพินท์ พิศาลวาเลิศ ได้ถูกต่อยอดสู่การสร้างแบรนด์จนเกิดเป็นภาพจำของผู้บริโภคภายใต้ชื่อ ฟาสซิโน (FASCINO) ในวันนี้ สตอรี่ที่ผ่านมา ตอกย้ำได้เป็นอย่างดีว่า เราพร้อมที่จะเติมสุขให้กับประชาชนทุกคนมีสุขภาพที่ดี ผ่านการขยายสาขาเพื่อให้ทุกคนได้เข้าถึง สินค้าและบริการที่มีคุณภาพ”
ทายาทรุ่นที่ 2 ของครอบครัวพิศาลวาเลิศ คุณญาณิน พิศาลวาเลิศ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท โปรฟาสซิโน จำกัด และ บริษัท ฟาร์มาฮอฟ จำกัด เล่าถึงจุดเริ่มต้นธุรกิจได้อย่างน่าสนใจ
ทำไมต้อง ฟาสซิโน?
คุณญาณิน เผยว่า ฟาสซิโน เราคือ ผู้ดำเนินธุรกิจค้าปลีก เวชภัณฑ์ยา อุปกรณ์การแพทย์ ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและความงามแบบครบวงจร ปัจจุบันเรามีสาขาครอบคลุมทั่วไทย และจุดแข็งที่สำคัญของเรา คือ มีสินค้ากว่า 10,000 รายการ และในทุกวันเราไม่หยุดนิ่งในการเพิ่มความหลากหลายของกลุ่มสินค้าเพื่อให้สอดรับกับสถานการณ์ อาทิ อุปกรณ์เครื่องมือแพทย์ รวมทั้ง สินค้าเพื่อดูแลสุขภาพ เป็นต้น
ภายในร้านฟาสซิโน เราแบ่งกลุ่มสินค้าเป็นยา 55% เครื่องมือแพทย์ 15% Patient support 8% ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร 12% เครื่องสำอางและเวชสำอาง 5% และอื่น ๆ อีก 4% โดยเรามุ่งหวังให้ ฟาสซิโน ร้านยาที่มีสินค้าครบครันในแบบ “One Stop Service & Best Delivery”
มากกว่า ร้านขายยา
ปฏิเสธไม่ได้ว่าสังคมปัจจุบัน เป็นสังคมแห่งการเปลี่ยนแปลงที่ฉับไว ทาง ฟาสซิโน ก็มุ่งขับเคลื่อนสู่การเป็น ไลฟ์สไตล์ดรักสโตร์ (Lifestyle Drug Store) ผ่านแนวคิดร้านโมเดลใหม่ ฟาสซิโน พลัส (Fascino Plus) โดยเราอยากให้เป็น Healthcare Destination ที่มีความเป็น Lifestyle มากขึ้น คือ ไม่ใช่ว่าต้องป่วยเท่านั้นถึงจะมาที่นี่ แต่จะทำให้ ฟาสซิโน เป็นส่วนหนึ่งของทุกคน อาทิ มาหาความรู้ในการดูแลสุขภาพ โดยเรามีบริการ Health Check-up, Diseases Screening and Counseling พร้อมทั้งจัดกิจกรรมเสวนาและ Workshop เกี่ยวกับปัญหาสุขภาพของคนทุกวัยภายในร้าน ซึ่งได้เริ่มทดลองเปิดแล้วที่ Fascino Plus สุขุมวิท 24
ต่อฐาน เติมยอดโอกาส สร้างเครือข่ายที่เข็มแข็ง
พร้อมกันนี้ อีกหนึ่งจุดเด่นของเรา คือ เภสัชกร ซึ่งไม่เพียงแต่มีความเชี่ยวชาญ แต่ยังคอยให้คำแนะนำเรื่องยาอยู่ประจำทุกร้าน ซึ่งจุดนี้ถือเป็นจุดแข็งอีกจุดหนึ่งของแบรนด์เราที่เราไม่เคยละเลยเรื่องความใส่ใจต่อลูกค้าที่เข้ามาซื้อยาภายในร้าน ด้วยเหตุนี้เพื่อเป็นการสร้างเครือข่านร้านขายยาของเราให้เป็นส่วนหนึ่งของชุมชน เราจึงเล็งเห็นว่าหากเภสัชกรที่ทำงานกับเรามาครบ 3 ปี เขาควรที่จะสามารถเป็นเจ้าของแฟรนไชส์ได้ด้วย ซึ่ง Franchise จะมีอายุ 10 ปี ค่า Franchise Licensing ประมาณ 1.5 ล้านบาท และถ้าเภสัชกรที่ทำงานกับเรามาแล้ว 3 ปี คุณจะได้สิทธิพิเศษคือ Franchise fee ครึ่งราคา คือ จ่ายเพียง 750,000 บาท ก็สามารถมีร้านขายยาเป็นของตัวเองได้เลย ถือเป็นหนึ่งตัวอย่างการสร้างแบรนด์สู่การเป็น Top of mind และ สร้างเครือข่ายการสร้างสุขภาพที่ดีให้กับสังคมอย่างกว้างขวาง
ก้าวเดินต่อจากนี้ ฟาสซิโน
คุณญาณิน เผยทิ้งท้ายว่า แม้ในสถานการณ์โควิด-19 จะสร้างผลดีในแง่ของสินค้าและบริการ แต่ทว่าเรื่องของการขยายสาขาก็ทรงตัวยังไม่เพิ่มเท่าที่ควร ส่วนในมิติของมูลค่าของตลาดยังเติบโตได้อีก ยิ่งในขณะนี้เทรนด์เรื่อง Health and Wellness คือโกลบอลเทรนด์ ถือเป็นโอกาสสำคัญในการรุกตลาดของเรา โดยไม่เพียงแต่ในไทยเท่านั้นที่เราจะขยายสาขา ตลาดใน CLMV คือ ความท้าทายใหม่ของเราที่ต้องทำให้ได้ในอนาคต นอกจากการขยายสาขาแล้ว เรายังมีการพัฒนาระบบ Telepharmacy ให้คำปรึกษาโดยเภสัชกรทางออนไลน์ ช่วยอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าไม่ต้องเดินทางมาที่ร้าน สามารถปรึกษาเภสัชกรจากที่บ้านได้เลย ซึ่งตอบโจทย์อย่างมากในยุคโควิด-19
สำหรับช่องทางในการติดต่อ ฟาสซิโน ลูกค้าสามารถปรึกษาหรือข้อแนะนำเรื่องสุขภาพจากเราได้อย่างสะดวก ไม่ว่าจะเป็นช่องทาง Line Official @fascinothailand และ Call Center 02-111-6999 เรามีผู้เชี่ยวชาญทั้งเภสัชกร และทีม CRM คอยบริการตลอดเวลา นอกจากนี้ลูกค้าที่ไม่สะดวกเดินทางมาที่ร้านยังสามารถเลือกซื้อสินค้ากลุ่มสุขภาพ ผ่านทาง http://www.fascino.co.th
เส้นทางของการดำเนินธุรกิจ การปรับตัวถือเป็นปัจจัยสำคัญ ไม่เพียงเท่านั้น ยังต้องสร้างจุดแข็งและสร้างความต่างเพื่อให้สอดรับกับความต้องการของตลาดและตอบโจทย์การสร้างสุขสู่ผู้บริโภค และหนึ่งแบรนด์ต้นแบบที่ดี ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ฟาสซิโน คือหนึ่งแบรนด์ที่ควรค่าแก่การศึกษา