ฤดูฝนแบบนี้ Green Trip ขอนำเสนอทริปท่องเที่ยวที่ทั้งสนุก มีสาระ และใช้เวลาน้อยที่สุดแบบฉบับการท่องเที่ยว “วันเดย์ ทริป” โดยครั้งนี้ ได้ตามหาเรื่องราวประวัติศาสตร์ชาติไทย “อยุธยาราชธานี” เมืองที่ไม่มีผู้ใดจะรบชนะได้” ย้อนรอยกลับไปเมื่อ 417 ปี ผ่านกาลเวลา กว่าจะมาเป็นจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ในวันนี้
จากนั้นเดินเท้าไป “วัดบรมพุทธาราม วัดกระเบื้องเคลือบ” แต่เดิมเป็นนิวาสสถานของสมเด็จพระเพทราชาแห่งราชวงศ์บ้านพลูหลวง. เมื่อพระองค์ขึ้นครองราชย์ได้ใช้สถานที่นี้สร้างพระอารามหลวงทรงพระกรุณาให้หมื่นจันทราช่างเครื่องทำกระเบื้องเคลือบสีเหลืองมุงหลังคาพระอุโบสถวิหารและพระราชทานนามว่าวัดบรมพุทธาราม แต่ชาวบ้านนิยมเรียกว่าวัดกระเบื้องเคลือบ เดินทางต่อสู่ “พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเจ้าสามพระยา” มรดกวัฒนธรรมความรุ่งเรืองแห่งกรุงศรียุทยาจากเมืองท่าการค้าสู่การถ่ายทอดงานศิลปกรรมที่งดงาม พร้อมเครื่อง ทองที่พบในกรุพระปรางค์วัดราชบูรณะและวัดมหาธาตุ
ก่อนจะแวะพักรับประทานอาหารเที่ยงที่ร้านไทรทองริเวอร์ ร้านดังบรรยากาศริมแม่น้ำเพื่อเติมพลัง ก่อนจะไปที่ “วัดแม่นางปลื้ม” วัดเก่าแก่ที่มีผู้คนแวะเวียนมากราบหลวงพ่อขาว พระประธานองค์สีขาวบริสุทธิ์ เพื่อความเป็นสิริมงคลพร้อมชมเจดีย์ทรงระฆังคว่ำฐานสิงห์ล้อมศัพท์ศิลปะสมัยวิทยาที่ได้รับอิทธิพลจากศิลปะเขมร-ลพบุรี
การเดินทางยังไปต่อที่”หมู่บ้านญี่ปุ่น” ชมนิทรรศการสายสัมพันธ์ไทย-ญี่ปุ่น ทำความรู้จักกับประวัติซามูไรในราชสำนักอยุธยา ยามาดะ นางามาซะ หรือออกญาเสนภิมุข และท้าวทองกีบม้า ต้นเครื่องในราชสำนักในสำรับหวานผสมผสานโปรตุเกสกับขนมตระกูลทองที่เกิดขึ้นในอยุธยา
จากนั้นต่อกันที่ “วัดราชบูรณะ” แม้วันนี้ จะคงเหลือแต่เจดี พระปรางค์ที่แตกหักแต่ยังคงงดงาม และเก่าแก่มากที่สุดในพระนครศรีอยุธยา สร้างโดยสมเด็จพระราชาธิราชที่ 2 หรือเจ้าสามพระยาในปี พ.ศ.1967 ที่วัดราชบูรณะแห่งนี้มีความงดงามสมกับเป็นโบราณสถานที่ยิ่งใหญ่
ก่อนปิดท้ายการเดินทางในเวลาก่อนจะพลบค่ำที่ “หมู่บ้านฮอลันดา” ชมนิทรรศการที่เกี่ยวข้องกับนวัตกรรมแผนที่การเดินเรือ และชมการแสดง ชิมอาหารไทยดั้งเดิม ก่อนลาจาก “เมืองกรุงเก่า สู่ เมืองกรุง กรุงเทพมหานคร” 1 วันเต็มกับเรื่องราวดีๆ ที่ เกิดขึ้น ต้องขอขอบคุณ กิจกรรมทำความดีประจำปีของ บัตรเครดิตเคทีซี ที่ทำให้เราเดินที่ได้ครบทุกรสชาติ
