เมื่อกล่าวถึง การนวดแผนโบราณถือเป็นการนวดชนิดหนึ่งในแบบไทย ซึ่งเป็นศาสตร์บำบัดและรักษาโรคแขนงหนึ่งของการแพทย์แผนไทย ด้วยความสำคัญดังกล่าว ผนวกกับการมองเห็นโอกาสในการขยายตลาดสินค้าสมุนไพรเพื่อดูแลสุขภาพ ตนและทีมงานจึงได้จัดตั้งบริษัทและสร้างผลิตภัณฑ์ภายใต้ชื่อ “สุขกายะ” โดยมีหมุดหมายที่สำคัญคือ “อยากเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้คนไทยมีความสุข” คุณณัฐธินันท์ ตั้งดำรงธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท นาทีทอง 999 จำกัด เผยถึงจุดเริ่มต้นของการทำธุรกิจ
กรรมการผู้จัดการ
บริษัท นาทีทอง 999 จำกัด
คุณณัฐธินันท์ กล่าวว่า หัวใจสำคัญในการพัฒนาผลิตภัณฑ์คือ “เห็นผล ใช้ปลอดภัย” โดยสุขกายะ คือ น้ำมันสมุนไพรที่วันนี้ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย ตัวสินค้าผลิตจากสมุนไพรจากหลากหลายชนิดเป็นสูตรที่ส่งต่อกันมาจากรุ่นสู่รุ่น ไม่ว่าจะเป็น ขันทองพยาบาท , พลูคาว , ว่านหางจระเข้ , เมล็ดดอกทานตะวัน , ไมยราพ และ เถาเอ็นอ่อน เป็นต้น ถือเป็นสินค้าจากสมุนไพรไทย 100% ที่พร้อมดูแลและเติมเต็มให้คนไทยได้ผ่อนคลายทั้งจากสุขภาพกายและใจ ที่สำคัญวัตถุดิบคัดสรรอย่างดีจากกลุ่มเกษตรกรทัั่วประเทศเพื่อให้ได้คุณภาพและมาตรฐานตามที่เรากำหนดสดจากไร่ทุกวันและยังเป็นการสร้างงานสร้างอาชีพให้กับกลุ่มเกษตรกรจากต้นน้ำสู่ปลายน้ำให้ยั่งยืน
คุณณัฐธินันท์ ขยายความถึงผลิตภัณฑ์สุขกายะน้ำมันสมุนไพร สูตรตำรับโบราณควบคุมการผลิตโดยทีมแพทย์แผนไทยได้อย่างน่าสนใจว่า มีส่วนผสมหลักของสมุนไพรไทย ได้แก่ เถาวัลย์เปรียง กราวเครือแดง ไพล ทองพันชั่ง พลูคาว รางจืด ถือสุดยอดสมุนไพรไทย แก้อาการตั้งแต่ ปวดเมื่อยกระดูกเส้นเอ็นและกล้ามเนื้อ นิ้วล็อก นิ้วชา ด้วยเทคโนโลยีน้ำมันนาโน ทาแล้วซึมเร็วไม่เหนียวเหนอะหนะ มีกลิ่นหอมจากกาสะลองหรือดอกปีบหอมผ่อนคลาย บำบัดความปวด แก้ไมเกรน ช่วยให้หลับสบาย เป็นสมุนไพรสกัดเข้มข้น ตามกรรมวิธีของแพทย์แผนไทย ดูแลการผลิตโดยทีมแพทย์แผนไทย
ปัจจุบันสุขกายะได้ขยายกลุ่มสินค้าออกมาอย่างหลากหลาย ให้ครอบคุมและง่ายต่อการเลือกซื้อโดยแบ่งสินค้าออกเป็น 4 กลุ่มหลักๆ คือ สุขกายะ สุขไลฟ์ สุขสกิน และรวยสุข เพื่อตอบสนองความต้องการและให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย ไม่ว่าจะเป็น บาล์มนวดสมุนไพรเมล็ดกัญชง ยานวดขี้ผึ้งสมุนไพรเข้มข้น บรรเทาอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ เคล็ดขัดยอก ปวดหลัง รวมทั้งน้ำมันนวด คลายเส้น แก้ปวด กลิ่นกาสะลอง ซึ่งได้รับความสนใจอย่างมาก และยอดขายเติบโตแบบก้าวกระโดด ในทุกๆไตรมาสเรายังได้จัดสรรงบประมาณจากกำไรไปมอบให้กับชุมชนในถิ่นทุรกันดาลเพื่อเป็นตอบแทนและคืนกำไรสู่ชุมชนแบบพึ่งพาอาศัยภายใต้โครงการ สุขกายะ สร้างสุขเมื่อสอบถามถึงช่องทางการจัดจำหน่ายขณะนี้ใช้กลยุทธ์ ‘Omni Channel Marketing’ การทำการตลาดผ่านช่องทางที่หลากหลายไม่ว่าออนไลน์หรือออฟไลน์และมีการเชื่อมต่อกันแบบ seamless ในทุก touch point และหนึ่งการตอบรับที่ดีคือ แบบปากต่อปาก หรือ (Word of Mouth)และหาชื้อได้ตามร้านขายยาชั้นนำทั้วไป
“เรามีความตั้งใจและเชื่อมั่นว่าสินค้าในแบรนด์ สุขกายะ จะเป็นส่วนเติมเต็มที่สำคัญโดยเฉพาะการเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า เพราะสุขกายะ เราอยากให้คนไทยมีความสุข” คุณณัฐธินันท์ กล่าวทิ้งท้าย
