ห้องรับแขก:มากกว่าคอลเลกชันชุดชั้นใน คือ ความใส่ใจต่อ “ภารกิจรักษ์โลก” อย่างยั่งยืนโดย : คุณอินทิรา นาคสกุล ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท ไทยวาโก้ จำกัด (มหาชน)


คุณอินทิรา นาคสกุล
ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท ไทยวาโก้ จำกัด (มหาชน)

“วาโก้คือชุดชั้นในที่มีต้นกำเนิดจากประเทศญี่ปุ่น การันตีความสบายกายเมื่อสวมใส่ สบายใจเมื่อได้ใส่ผลิตภัณฑ์คุณภาพ นอกจากเสริมสร้างความมั่นใจจากภายในสู่ภายนอก ยังสร้างความผูกพันกับผู้คนและสังคมมาอย่างยาวนาน โดยเฉพาะการยืดตามหลักแนวคิด BCG มาปรับใช้ในการดำเนินธุรกิจสู่ความยั่งยืน” คุณอินทิรา นาคสกุล ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท ไทยวาโก้ จำกัด (มหาชน) เผยถึงภาพรวมความเป็นมาของ  “วาโก้” ที่วันนี้ผลิตชุดชั้นในส่งมอบความสุขให้ผู้หญิงไทยมาแล้วกว่า 5 ทศวรรษ 

คุณอินทิรา เผยต่อไปว่า วันนี้ภาพรวมตลาดชุดชั้นในฟื้นตัวกลับมาจากสถานการณ์โควิด-19 ที่ผ่านมา โดยครึ่งปีแรกของปีมีแนวโน้มดีขึ้นและคาดว่าสิ้นปี 2566 นี้ตลาดจะโตจากปีที่ผ่านมา (2565) โดยมีปัจจัยบวกมาจากสภาพเศรษฐกิจ การใช้ชีวิต-ทำงานที่เริ่มกลับสู่ภาวะปกติ รวมถึงปริมาณการจับจ่ายของผู้บริโภคทั้งหน้าร้านและออนไลน์และนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เพิ่มขึ้น  อย่างไรก็ดีนอกจากการกระตุ้นตลาดอีกหนึ่งปัจจัยที่วาโก้เร่งปรับตัวคือ ตามติดเทรนด์เพราะขณะนี้ความต้องการของผู้บริโภคเปลี่ยนไปไวมาก โดยให้น้ำหนักกับคุณภาพของสินค้าทั้งดีไซน์เรียบง่ายแต่มีฟังก์ชั่นที่ทำให้สวมใส่สบายไม่ว่าจะเป็นวัสดุจะต้องสบาย ระบายอากาศ ไม่กดเจ็บ แต่ในความสบายนั้นต้องมีความกระชับพอดี และทนทานใช้ได้นานขึ้น 

ฉะนั้นแล้วความต้องการของผู้บริโภคเป็นอีกมิติที่วาโก้โฟกัสอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วง 1-2 ปีนี้จะเดินหน้ารุกใน 2 กลุ่มตลาดที่น่าสนใจ คือ 1.สินค้า LGBTQ+ ในแบรนด์ Freedom โดยจะมุ่งตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่ม LGBTQ+ และอีกเซ็กเมนต์ คือ 2.สินค้ารักษ์โลกในคอลเลกชัน Wacoal Love Earth และ Wacoal Indin โดยแบรนด์ Freedom จะเน้นฟังก์ชันตอบโจทย์ความต้องการอย่างการปรับรูปร่างสรีระร่างกายให้เข้ากับเพศสภาพ อย่าง ลดขนาดหน้าอก ซ่อนอวัยวะบางส่วน เสริมสะโพก ฯลฯ ในราคาจับต้อง สวมใส่สบาย ดีไซน์สวยงามด้วย ตามแนวคิดให้ลูกค้าได้มีอิสระในความเป็นตัวเอง

คุณอินทิรา ขยายความต่อไปว่า วันนี้มองในตลาดทุกอุตสาหกรรมทุกคนพูดเป็นสิ่งเดียวกันว่า “สินค้ารักษ์โลก”  คือเทรนด์ที่สำคัญ ซึ่งทางวาโก้นั้นเราได้ยึดหลักแนวคิด “WACOAL LOVE EARTH” มาเป็นแคมเปญหลักในการสื่อสารปีนี้ เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านการบริหารงานตามหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี (Good Corporate Governance) ระบบการจัดการเศรษฐกิจหมุนเวียน หรือ CIRCULAR ECONOMY MANAGEMENT SYSTEM (CEMS) ตั้งแต่การปฏิบัติตามแนวนโยบายการจัดซื้อจัดจ้างที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การคัดเลือกวัตถุดิบที่ได้มาตรฐาน การออกแบบผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม กระบวนการผลิตที่มีคุณภาพ การจัดการสินค้าคงคลังที่มีประสิทธิภาพ การให้ข้อมูลที่ถูกต้องแก่ผู้บริโภคและที่สำคัญวาโก้ยังเป็นรายแรกของธุรกิจชุดชั้นในสตรีในประเทศไทย ที่ได้รับตราสัญลักษณ์ฉลากเขียว (Green Label) จากสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย เพื่อให้ผู้บริโภคมั่นใจในการสวมใส่สินค้าที่ปลอดภัยจากสารพิษและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

มากไปกว่านั้นในมิติของสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะในเรื่องของขยะหลังการใช้สินค้า หรือทิ้งทำลายที่ถูกวิธีไม่กระทบต่อสิ่งแวดล้อม ทางวาโก้ได้เป็นแกนกลางที่สำคัญในการรับคืนผลิตภัณฑ์ชุดชั้นในที่ไม่ใช้แล้วเพื่อลดขยะชุมชน ลดมลพิษจากการฝังกลบหรือการเผาในที่โล่ง ลดโลกร้อน ลดฝุ่น PM 2.5 นำไปแปรเปลี่ยนเป็นพลังงานในการผลิตไฟฟ้า กับ “โครงการวาโก้บราเดย์ บราเก่าเราขอ” 

เมื่อสอบถามถึง “โครงการวาโก้บราเดย์ บราเก่าเราขอ” คุณอินทิรา เล่าต่อไปว่า วาโก้มีความตั้งใจที่จะเดินหน้าลดปริมาณขยะ ชวนบริจาคชุดชั้นในเก่าที่ไม่ใช้แล้วทั้งชาย-หญิง เพื่อนำไปกำจัดโดยไม่ปล่อยมลพิษและแปรเปลี่ยนเป็นพลังงานเชื้อเพลิง โดยได้ดำเนินการมาถึงปีที่ 12 ซึ่งในปี 2566 ตั้งเป้ายอดรับบริจาคที่ 120,000 ตัว ซึ่ง ม.ค.66 – ต.ค. 66  รับบริจาคไปแล้ว 119,400 ชิ้น ซึ่งเกินเป้าหมายที่วางไว้อย่างแน่นอน และเมื่อนับตั้งแต่เริ่มโครงการ โดยชุดชั้นเก่าได้รับบริจาคจำนวน 119,400  ชิ้น รวมน้ำหนัก 11,940 กิโลกรัม หรือลดขยะชุมชนไปได้กว่า 12 ตัน ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ที่เกิดจากการฝังกลบ 18  ตันคาร์บอนไดออกไซด์ ทดแทนการใช้ถ่านหินในการเป็นเชื้อเพลิง 60 ตันคาร์บอนไดออกไซด์ เทียบเท่าการปลูกต้นไม้กว่า 6,468 ต้น  

โดยขณะนี้สามารถนำเอาบราเก่ามาบริจาคได้ที่วาโก้ช็อปและเคาน์เตอร์วาโก้ทุกสาขาทั่วประเทศได้ตลอดทั้งปี รวมถึงทางไปรษณีย์ไทย เราเชื่อมั่นว่า โครงการนี้จะเป็นอีกกลไกสำคัญในการลดการเปลี่ยนขยะให้เป็นศูนย์ หรือ Zero Waste เพื่อช่วยลดปริมาณขยะพลาสติกและขยะชุมชนให้ลดลง

วันนี้แนวคิด “WACOAL LOVE EARTH” ถูกขยายผลและทำงานในเชิงรูปธรรมอย่างเข้มข้นในฐานะผู้ผลิตสินค้าที่ให้ความใส่ใจในเรื่องการรับผิดชอบ ดูแลสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างรอบด้าน หากจะหล่าวว่าว่าวันนี้ วาโก้เป็นมากกว่า คอลเลกชันชุดชั้นใน ที่มี “ภารกิจรักษ์โลก” ก็ถือเป็นหนึ่งกรณีศึกษาที่ดีในภาคธุรกิจวันนี้ 


Comments

No comments yet. Why don’t you start the discussion?

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *