Save The Duck รักเป็ดรักโลก🐤


ผมอยู่อิตาลีครับ มีเรื่องแบรนด์ที่รักษ์โลกแบบคูลๆ มาเล่าให้ฟังอีกแบรนด์ แบรนด์นี้ยังไม่เป็นที่รู้จักของคนไทยมากนัก แต่รู้ไว้ก่อนทันสมัยก่อนเพราะเดี๋ยวจะดังแน่นอน

ประเทศในแถบยุโรปถือเป็นประเทศผู้นำด้านการดูแลสิ่งแวดล้อม เป็นประเทศที่จริงจังด้านโลกร้อนมากๆ มาตรการ มาตรฐานต่างๆ ทางธุรกิจที่ใช้กันก็มักจะมาจากทางนี้นี่แหละ เช่น การลดมลพิษในยานยนต์ (Euro Standards) การจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์ (WEEE) ไปจนถึงมาตรการใหญ่ระดับทวีปอย่าง European Green Deal และ Carbon Border Adjustment Mechanism (CBAM) หรือมาตรการปรับคาร์บอนก่อนข้ามพรมแดนของสหภาพยุโรป (EU) เพื่อกำหนดราคาคาร์บอนสำหรับสินค้านำเข้าบางประเภท เช่น เหล็ก, ปูนซีเมนต์, อะลูมิเนียม

ในอิตาลีนี่ถ้าลืมหยิบถุงใส่ของไปต้องเสียค่าถุงทุกร้านแบบไม่มีข้อแม้ ตามซุปเปอร์มาร์เก็ตก็มี ตู้ให้เอาขวดพลาสติกไปหยอดแล้วได้ตังค์กลับมา แบรนด์ต่างๆ มีจุดรับสินค้าเก่าคืนมาrecycleกันมากมาย และยังมีอีกแบรนด์ที่รักษ์โลก และทำการสร้างแบรนด์ได้น่าสนใจมาก เค้าบอกว่าไม่ใช้วัสดุจากสัตว์เลยซักกะนิด “We respect animals. We don’t wear them.” เมื่อวัวไม่ใช่กระเป๋า เมื่องูไม่ใช่เข็มขัด เมื่อแกะไม่ใช่รองเท้า เมื่อมิงค์ไม่ใช่ผ้าพันคอ และเมื่อขนเป็ดไม่ใช่เสื้อหนาว และนั่นคือที่มาของแบรนด์นี้ ขนาดตั้งชื่อแบรนด์ยังน่าสนใจเลยว่า “Save The Duck”

แบรนด์นี้เพิ่งก่อตั้งได้ไม่นานโดยคุณ Nicholas Bargi (Founder and CEO) เมื่อปี 2012 นี่เอง เขาเป็นเจน3ของตระกูลที่ทำธุรกิจในมิลานประเทศอิตาลี เขามีแนวคิดที่ชัดเจนว่า มุ่งสร้างโลกที่ดีกว่า โดยปราศจากการทรมานสัตว์ แบรนด์ของเขาจึงไม่มีการใช้ขนเป็ด ขนห่าน ไหม หรือหนังสัตว์ใดๆ ในการผลิต แต่เลือกใช้วัสดุสังเคราะห์คุณภาพสูงแทน เสื้อกันหนาวของ Save The Duck ใช้เทคโนโลยี PLUMTECH®️ ที่หลายคนสงสัยว่าจะอุ่นจริงหรือ แต่ฉนวนใยสังเคราะห์กันหนาวนี้เก็บความร้อนได้ดี มีน้ำหนักเบา และแห้งเร็วกว่าด้วย จึงรักษาง่ายกว่าขนเป็ดเสียอีก ดังนั้นสินค้าของแบรนด์นี้ทั้งเสื้อกันหนาว เสื้อพัฟและพาร์กา รวมถึงแอคเซสเซอรีต่างๆ สามารถใช้ในอุณหภูมิติดลบได้อย่างสบายๆ

Save The Duck ดำเนินการโดยมี 3 ชุดความคิดหลัก คือ We respect animal. (We don’t wear them.) We respect nature. (We design using 76% recycled materials.) และ We respect people. (We donate 1% of our annual turnover.) ตัวอย่างเช่น PLUMTECH®️ นั่นก็ใช้ขวดพลาสติกไปปั่น ทำละลาย และทอออกมาเป็นเส้นใยสังเคราะห์ บรรจุลงไปในเสื้อพัฟได้อุ่นสุดๆ แถมยังซักด้วยเครื่องซักผ้าได้ด้วย

ในมุมการทำธุรกิจ การขยายสาขานอกจากอิตาลีแล้ว Save The Duck กำลังโด่งดังมากในสหรัฐอเมริกา และญี่ปุ่น และกำลังจะขยายเพิ่มอีก 30 สาขา ใน 5 ปีข้างหน้านี้ มีการประมาณการรายได้อยู่ที่ 200 ล้านยูโร (7,600ล้านบาท) ในปี 2029 แถมยังได้เป็นพาร์ทเนอร์อย่างเป็นทางการในการดูแลเครื่องแต่งกายให้ทีมฟิกเกอร์สเกตของสหรัฐฯในการแข่งขันโอลิมปิกฤดูหนาว 2026 ที่กำลังจะถึงนี้ด้วย

คิดว่าผู้อ่านหลายคนยังสงสัยว่าการทำแบรนด์แบบยั่งยืนนี้มันจะเป็นจุดขายได้จริงหรือ เอาเป็นว่าร้านที่มิลานคนเต็มร้าน ยืนรอคิวก็แล้วกันครับ เสื้อพัฟกันหนาวตัวนึงราคาก็ไม่เบาประมาณ 20,000 บาท เรียกว่าสินค้าที่ใส่ไอเดียรักโลกแล้วยังชาร์จ premium price ได้ชิลๆ เลย ช่วงนี้หลายคนไปเที่ยวต่างประเทศหนาวๆ หิมะตกอยากได้แบรนด์รักเป็ดนี้ไปใส่ให้อุ่นๆ สักตัวหรือยังครับ

บทความโดย: 
นายวีรพล  สวรรค์พิทักษ์
CMO La Nature And Digital Marketing Manager บริษัท อีมิแน้นท์แอร์ (ประเทศไทย) จำกัด


Comments

No comments yet. Why don’t you start the discussion?

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *