มุ่งมันและตั้งใจ บทละครแห่งความสุขของชีวิต
งานในวงการบันเทิงเป็นงานที่ตนเองรักและพร้อมทุ่มเททั้งตัวและหัวใจด้วยจิตวิญญาณของนักแสดงเพื่อสร้างรอยยิ้มและความประทับใจให้กับผู้ชมอันเป็นการเติมเต็มความสุขและกำลังใจในการก้าวเดินต่อไป
บทละครของชีวิตไม่ได้ถูกกำหนดหรือขีดเขียนจากผู้กำกับละคร แต่เกิดจากหยดน้ำหมึกทางความคิดของตนที่บรรเลงลงสู่พื้นกระดาษเพื่อกำหนดและวางแผนถึงเส้นทางชีวิตของตนเอง โดยไร้ซึ่งการคาดการณ์หรือรู้ล่วงหน้าว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น แม้ว่าตอนจบจะเป็นอย่างไรแต่ความสุขของบทละครชีวิตคือความทรงจำและประสบการณ์ที่สามารถถ่ายทอดเป็นวิทยาทานให้กับคนรุ่นหลังได้เรียนรู้ต่อไป ซึ่งในวันนี้Green Life Plus จะนำผู้อ่านทุกท่านมารู้จักกับหนึ่งบทละครชีวิตจากนักแสดงรุ่นใหม่ที่มาก ความสามารถผ่านเวทีประกวดมามากมายและ เป็นที่ยอมรับของพี่ๆเพื่อนในวงการและต่อยอดงานแสดงด้วยการสร้างธุรกิจเป็นของตัวเอง วิรากานต์ เสณีตันติกุลหรือน้องมะปราง
กว่าจะมีวันนี้ ในการเป็น “นักแสดงหลากหลายบทบาท ของช่อง 3” มะปรางมีเส้นทางชีวิตอย่างไร
จุดเริ่มต้นเลยมี “คุณแม่เป็นเข็มทิศชีวิต”เนื่องด้วยคุณแม่เป็นคนรู้พื้นฐานของลูกๆทุกคน อย่างเช่น ความสามารถพิเศษ ถนัดและชื่นชอบสิ่งใด รวมทั้งความใฝ่ฝัน และนี่คือปัจจัยที่สำคัญในการเติมเต็มความสำเร็จของมะปรางในวันนี้ โดยในวัยเด็กชื่นชอบและหลงใหลในการแสดงต่างๆ เรียกได้ว่าเมื่อเจอเวทีเมื่อไหร่เป็นดั่งแม่เหล็กดึงดูดมะปรางในทุกอณูความรู้สึก ผสมผสานกับตนเองเป็นคนพูดเก่ง กล้าแสดงออกในทีสาธารณะอย่างไม่เขินอาย คุณแม่จึงพาไปเรียนรู้ในมิติต่างๆของศาสตร์วิชาศิลปะการแสดง ไม่ว่าจะเป็นการเต้นหรือรำทำให้หลังจากนั้นได้เข้าประกวดในเวทีMISS HACK หรือ สาวแฮ็คส์ ปี ค.ศ.2004 ซึ่งได้รับรางวัลชนะเลิศ เป็นก้าวแรกและจุดเปลี่ยนที่สำคัญของชีวิต (อมยิ้มแบบภูมิใจ^^)
การที่คุณแม่มองเห็นถึงความสามารถและส่งเสริม สนับสนุน จนมีวิชาและความรู้ มีผลอย่างไรกับการเป็นนักแสดงอาชีพเต็มตัวในวันนี้
มีผลมากเปรียบเสมือนดั่งการรากฐานที่สำคัญจนก้าวมาสู่การแสดงละครเรื่องแรกของชีวิตคือ “เรื่อง แช่มช้อย” โดยครูเล็กภัทราวดี ต้องการนักแสดงรุ่นใหม่ที่มีความสามารถในด้านเต้นและรำเป็นพิเศษ ซึ่งตัวเองตอบโจทย์และได้รับการคัดเลือกรวมทั้งเซ็นสัญญาเป็นนักแสดงอาชีพกับทางสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 อย่างเต็มตัว แม้ว่าละครดังกล่าวจะไม่ได้ออนแอร์แต่เป็นบทเรียนที่สำคัญในงานศิลปะการแสดง ตนได้มุ่งมั่นเรียนรู้ เปิดรับฟังความคิดเห็นและคำสอนจากนักแสดงรุ่นพี่อย่างตั้งใจ เป็นที่รักและยอมรับในวงการสานต่อจนได้รับโอกาสด้านงานแสดงละครอื่นๆอย่างต่อเนื่อง โดยเริ่มจาก “ละครเรื่อง เจ้าสาวบ้านไร่” รับบทเป็นตัวละครร้าย และหลังจากนั้นก็ได้รับบทบาทการเป็นดาวร้ายมาโดยตลอด
เสน่ห์ของงานวงการบันเทิงในมุมของมะปรางเป็นยังไงบ้าง
มะปรางมองว่า “งานในวงการบันเทิงเป็นงานที่ตนเองรักและพร้อมทุ่มเททั้งตัวและหัวใจด้วยจิตวิญญาณของนักแสดง”ซึ่งเราสามารถมีโอกาสได้เรียนรู้ ฝึกฝน พร้อมทั้งพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้งบนพื้นฐานความตั้งใจ มุ่งมั่น และแน่วแน่ ถือได้ว่างานแสดงสามารถเข้ามาเต็มความสุขในทุกลมหายใจของตนได้จนถึงทุกวันนี้
ครอบครัวมีส่วนมากไหม กับความสำเร็จในวันนี้
ครอบครัวคือหัวใจที่สำคัญ ในการขับเคลื่อนความสำเร็จของลูกๆทุกคน ยกตัวอย่างเช่น คุณแม่เป็นดั่งนักบัญชีในการบริหารจัดการเรื่องการเงินของครอบครัว สำหรับพี่ชายเป็นคนวางจุดยุทธศาสตร์ในการก้าวเดินของครอบครัวอย่างสมดุล ไม่ว่าจะเป็น การบริหาร การแก้ไขปัญหา รวมทั้งสร้างกำลังใจ
มะปรางมีการจัดสรรเวลาอย่างไรบ้างให้สอดคล้องกับงานและดูแลสุขภาพใจและกายควบคู่ไปอย่างสมส่วน
เราต้องจัดสรรเวลาให้ครอบครัวและสังคมอื่นๆอย่างสมดุล ผ่านการท่องเที่ยว พบปะสังสรรค์หรือจะเป็นการแลกเปลี่ยนแนวคิดกับผู้ใหญ่หรือพี่ๆในวงการเพื่อนำประสบการณ์และข้อคิดที่ได้มาปรับใช้ในการทำงานต่อไป นอกจากนี้ด้านสุขภาพก็เป็นส่วนสำคัญตนจึงจัดสรรเวลาที่เหมาะสมเข้าฟิตเนตเพื่อสร้างความแข็งแรงให้กับร่างกายอยู่สม่ำเสมอ
นอกจากงานแสดง มะปรางได้ทำงานด้านใดอีกบ้างของวงการบันเทิง
ส่วนตัวมะปรางชอบและหลงรักในงานแสดง จึงทำให้งานหลักในเส้นทางนักแสดงอาชีพนั้นเป็นการแสดงละครเป็นหลัก แต่ก็มีงานด้านโฆษณาเข้ามาให้เรียนรู้และฝึกฝนตนเองอยู่เสมอ
ถ้าพูดถึงบทบาทการแสดงมะปรางคิดว่า คนดูจะนึกถึงเราในมุมไหน และมุมไหนที่เป็นตัวตนของเราอย่างแท้จริงที่คนดูไม่รู้
ส่วนใหญ่ในจอทีวีบทบาทที่ได้รับจะเป็นดาวร้าย แต่ชีวิตจริง หนูเป็น “ผู้หญิงสนุกสนาน เฮฮา”นะ^^ และอีกมุมนึงจะเป็นคนประหยัดมัธยัสถ์มาก (ขี้งก)5555+ (มะปรางกล่าวด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะอย่างมีความสุข) ซึ่งคุณแม่สอนหนูเสมอว่าให้รู้จัก “เก็บเงิน”พร้อมๆกับไขว่คว้าและเสาะหา“โอกาส” ทำให้ในทุกงานที่เข้ามา ตนจะรับงานและตั้งใจทำอย่างเต็มที่ นอกจากงานแสดงตนยังชื่นชอบการค้าขาย เนื่องด้วยเสน่ห์ของนักขายคือการไม่หยุดนิ่งสอดรับกับความเป็นตนเองในการเรียนรู้อยู่ตลอดเวลา ด้วยเหตุนี้งานขายจึงเป็นอีกโจทย์ที่สำคัญที่นำพามาซึ่งโอกาสในการดำเนินธุรกิจเป็นของตนเองอย่างเต็มตัวภายใต้ผลิตภัณฑ์ “สเปร์ยเย็นคลายความร้อน”ในแบรนด์“ColdyAqua”
การทำธุรกิจของตัวเอง สร้างจุดเปลี่ยนใดในชีวิตบ้าง รวมทั้งมีความแตกต่างจากงานแสดงอย่างไร
ธุรกิจ คือ บทเรียนครั้งใหม่ของชีวิต โดยสินค้าสเปร์ยเย็น คลายความร้อน แบรนด์ColdyAquaเป็นสเปรย์เย็นลดอุณหภูมิบนร่างกาย มีกลิ่นหอมจากธรรมชาติของเมนทอล สามารถลดแบคทีเรียหรือกลิ่นอับชื้นบนเสื้อผ้า ตอบโจทย์ผู้บริโภคในภูมิภาคอาเซียนที่สภาพอากาศร้อน ปัจจุบันมีจำหน่ายที่ร้านเครื่องสำอางทั่วไปพร้อมกันนี้มีแผนพัฒนาในการนำผลิตภัณฑ์อื่นๆเข้ามาพัฒนาเพื่อขานรับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคได้ในทุกมิติ โดยการเริ่มต้นดำเนินธุรกิจคือคำตอบของการยกระดับตนเองให้ก้าวไปเรียนรู้ในสิ่งใหม่ซึ่งสอดรับกับงานแสดงที่เราต้องพัฒนาและศึกษาความต้องการของผู้ชมและผู้บริโภคไปพร้อมๆกัน โดยสามารถนำมาประยุกต์ใช้กับธุรกิจได้เป็นอย่างดี เมื่อเรามองว่าทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกใบนี้คือการเรียนรู้นั้นคือรากแก้วที่แข็งแรงของกระบวนการคิด อันจะนำไปสู่ความสำเร็จอย่างยั่งยืนต่อไป
นอกจากมุมมองด้านการแสดงหรือจะเป็นการทำธุรกิจ ในฐานะคนรุ่นใหม่ให้ความสำคัญอย่างไรบ้างกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของโลกเรา
ต้องยอมรับว่าค่านิยมที่มองว่า “ธรรมชาติคือของเราที่ทุกคนสามารถทำอะไรก็ได้” ในทางกลับกันเราต่างหากที่เป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติที่เราต้องช่วยกันรักษา ฉะนั้นแล้วการตระหนักถึงสิ่งแวดล้อมสามารถเริ่มได้จากตัวเราในหลากหลายวิธี ไม่ว่าจะเป็น การใช้ทรัพยากรอย่างรู้คุณค่า ปลูกพื้นที่สีเขียวเพิ่มมากขึ้นหรือแม้กระทั่งการปลูกฝังด้วยการปลูกต้นไม้ในใจคน ฉะนั้นเมื่อคุณไม่พร้อมที่จะสร้างอย่าคิดทำลาย ร่วมกันดูแลโลกไปด้วยกันกับเราที่ Green Life Plus ต่อไป
หนึ่งบทละครสามารถแสดงออกมาได้ในหลากหลายบทบาทเช่นเดียวกันกับหนึ่งชีวิตที่คุณสามารถเรียนรู้ ฝึกฝน พัฒนาตนเองในด้านต่างๆ มองการเรียนรู้ให้เป็นโอกาส ประหยัดและใช้เงินอย่างรู้คุณค่าตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ดำเนินชีวิตอย่างมีความหมายด้วยทัศนคติเชิงบวก มองบริบทของสังคมให้กว้างด้วยการให้ความสำคัญกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และนี่คือภาพสะท้อนทางความคิดของหนึ่งคนรุ่นใหม่ที่พร้อมต่อยอดความรู้ความสามารถของตนไปสู่เส้นทางชีวิตนักแสดงและถนนธุรกิจอย่างมั่นคง ” มะปราง วิรากานต์ เสณีตันติกุล”