“วันนี้แนวโน้มอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ทั่วโลก เรามองว่าความยั่งยืนและเทคโนโลยีแห่งอนาคตคือก้าวที่สำคัญสู่การเปลี่ยนผ่าน ไม่ว่าจะเป็น การใช้พลังงานไฟฟ้า พลังงานทดแทน และการขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้า ซึ่งสำหรับเดลต้าวันนี้ในฐานะบริษัทชั้นนำระดับโลกด้านพาวเวอร์ซัพพลายและอิเล็กทรอนิกส์พร้อมส่งเสริมความยั่งยืนผ่านนวัตกรรมที่โดดเด่น” Mr. KK Chong, Head of Marketing Communications and Sustainable Development บริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เผยถึงเทรนด์และทิศทางความพร้อมของเดลต้าต่อจากนี้
หัวหน้าฝ่ายสื่อสารองค์กรและพัฒนาความยั่งยืน เล่าต่อไปว่า เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ ประเทศไทย มุ่งมั่นที่จะเติบโตอย่างยั่งยืน ส่งเสริมประสิทธิภาพด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล รวมถึงความเป็นเลิศอย่างต่อเนื่องในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ระดับโลก โดยในปี 2566 ที่ผ่านมา บริษัทได้รับการยกย่องให้เป็น “บริษัทที่โดดเด่นที่สุดในประเทศไทย ในประเภทกลุ่มฮาร์ดแวร์และอุปกรณ์ด้านเทคโนโลยี” จากแบบสำรวจบริษัทที่โดดเด่นที่สุดในภูมิภาคเอเชียโดยนิตยสาร Asiamoney ยกย่องเดลต้าว่าเป็นบริษัทที่โดดเด่นในด้านผลการดำเนินงานทางการเงิน ความเป็นเลิศของทีมผู้บริหาร กิจกรรมด้านนักลงทุนสัมพันธ์ และความริเริ่มด้านการช่วยเหลือสังคมและสิ่งแวดล้อม
เมื่อสอบถามถึงการคาดการณ์อัตราการเติบโตแบบยั่งยืนในแผนงบประมาณสำหรับปี 2567 หัวหน้าฝ่ายสื่อสารองค์กรและพัฒนาความยั่งยืน ขยายความต่อไปว่า ปัจจัยขับเคลื่อนการเติบโตต่อจากนี้มาจากโอกาสใหม่ ๆ ในเทคโนโลยี AI โซลูชันการประมวลผลประสิทธิภาพสูง โครงสร้างพื้นฐานทางด้านพลังงานที่สอดคล้องกับเมกะเทรนด์ การใช้พลังงานไฟฟ้า การขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้า และพลังงานสะอาด ทั้งนี้การลงทุนขยายเพิ่มกำลังการผลิตล่าสุดในนิคมบางปูจังหวัดสมุทรปราการ ยังมีส่วนช่วยในการคาดการณ์พื้นฐานของบริษัทในเชิงบวกมากยิ่งขึ้น
“พร้อมกันนี้ เดลต้า โฟกัสไปที่ 3 โซลูชั่นใหญ่ ไม่ว่าจะเป็น 1.ด้านอุตสาหกรรมการผลิต ที่ทำให้เกิด Smart Industry ที่จะมีระบบ Automation รวมไปถึงระบบคลาวด์ ต่างๆที่ทำให้เกิด Productivity มากขึ้น 2.โครงสร้างพื้นฐาน ที่จะมีทั้งเรื่องของ ICT ที่จะมีโซลูชั่นอย่าง Data Center ในรูปแบบต่างๆ และโซลูชั่น Energy Infrastructure ไม่ว่าจะเป็นระบบพลังงานแสงอาทิตย์ ระบบกักเก็บพลังงาน รวมถึง EV Charger ด้วย และ 3.โซลูชั่นด้าน Building Automation ที่สำคัญสำหรับทุกวันนี้เนื่องจากคนเราใช้ชีวิตอยู่ในอาคารเป็นส่วนใหญ่ดังนั้นโซลูชั่นเพื่อสุขภาพของคนในอาคารและการจัดการอาคารด้านต่างๆอย่างอัจฉริยะ โดยเดลต้าตั้งเป้าที่จะเป็นศูนย์กลางของ 3 โซลูชั่นนี้ทั้งในไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้” กล่าวเสริม
หัวหน้าฝ่ายสื่อสารองค์กรและพัฒนาความยั่งยืน เดลต้า ประเทศไทย กล่าวต่อไปว่า เรามีนวัตกรรมที่โดดเด่นอย่างหลากหลาย เช่น Delta Modular Datacenter Vari°ROW® Series ดาต้าเซ็นเตอร์แบบโมดูลที่มีระบบระบายความร้อน หรือจะเป็นระบบ Delta Indoor Air Quality Solutions ที่เป็นระบบจัดการคุณภาพอากาศภายในอาคารที่สามารถนำอากาศใหม่เข้ามาหมุนเวียนภายในอาคาร และสามารถกรองฝุ่น PM2.5 ได้ รวมถึงเทคโนโลยี NovoTouch Interactive Display โซลูชั่นจอแสดงผลระบบสัมผัส ที่ใช้ในการประชุมและการเรียนการสอน และมีมหาวิทยาลัยใหญ่ๆในไทยเริ่มนำไปใช้กันแล้ว รวมไปถึงโซลูชั่นเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าของเดลต้าที่มีทั้งระบบ AC และ DC ที่เหมาะสำหรับผู้ที่จะนำไปลงทุนทำสถานีชาร์จ
สำหรับการพัฒนาด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) ทางเดลต้าทำงานร่วมกับกระทรวงอุตสาหกรรม สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) และการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) ในการสนับสนุนการพัฒนาสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล ทั้งนี้ในด้านนวัตกรรมเดลต้ามีผลิตภัณฑ์กำลังไฟประสิทธิภาพสูงสำหรับการใช้งานทั้งในด้านยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ และโทรคมนาคม เพื่อสนับสนุนเป้าหมายประเทศไทย 4.0 ใน S-Curve แรกของอุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ (Next Gen Automotive) และอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ (Smart Electronics) ซึ่งเรา มีความพร้อมเป็นอย่างมากในฐานะ“บริษัทชั้นนำระดับโลกด้านพาวเวอร์ซัพพลายและอิเล็กทรอนิกส์” หัวหน้าฝ่ายสื่อสารองค์กรและพัฒนาความยั่งยืน กล่าวทิ้งท้าย